คลังแจง ร้านค้าร่วมโครงการคนละครึ่งถูกเรียกเก็บภาษี

คลังแจง ร้านค้าร่วมโครงการคนละครึ่งถูกเรียกเก็บภาษี ยืนยัน ฐานข้อมูลโครงการไม่ได้เชื่อมกับกรมสรรพากร

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ชี้แจงกรณีร้านค้าหลายแห่งงดรับการจ่ายเงินผ่านโครงการคนละครึ่ง รวมถึงระบบการจ่ายเงินผ่าน e-wallet หรือเป๋าตังค์ของรัฐ โดยอ้างว่าถูกเรียกเก็บภาษีรายได้บุคคลธรรมดาย้อนหลังจำนวนมาก

กระทรวงการคลังขอชี้แจงว่า ผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา ไม่ว่าจะประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการของรัฐหรือไม่ หากมีเงินได้พึงประเมินถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด มีหน้าที่ต้องนำเงินได้พึงประเมินมายื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นการประเมินตนเองของผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการสามารถนำเอกสารหลักฐานต้นทุนการประกอบกิจการมาหักค่าใช้จ่ายจากยอดขาย เพื่อคำนวณภาษีเงินได้ที่จะต้องชำระ หรือหากไม่ได้เก็บเอกสารหลักฐานต้นทุน สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาตามที่กฎหมายกำหนดได้ โดยภาระภาษีของผู้ประกอบการขึ้นอยู่กับรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายตามจริง หรือในอัตราเหมาตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งค่าลดหย่อนต่าง ๆ

ทั้งนี้ หากรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนดังกล่าว ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีตามที่กฎหมายกำหนด ผู้ประกอบการจะไม่มีภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จะต้องชำระแต่อย่างใด ขณะที่ผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร และเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อสินค้าหรือบริการ รวมทั้งนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่กรมสรรพากรตามที่กฎหมายกำหนดด้วย

นายพรชัย ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลดำเนินโครงการคนละครึ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน ส่งผ่านกำลังซื้อไปสู่ผู้ประกอบการให้มีรายได้เพิ่ม เมื่อผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มจนอยู่ในเกณฑ์เสียภาษีตามที่กฎหมาย ก็ต้องชำระภาษี แต่ยืนยันว่า ฐานข้อมูลโครงการคนละครึ่งไม่ได้เชื่อมกับกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบรายได้แต่อย่างใด