สมาคมผู้ค้าปลีกไทย แจ้งขยายเวลาตรึงราคาสินค้าช่วยประชาชน
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย แจ้งขยายเวลาตรึงราคาสินค้าช่วยประชาชน พร้อมเสนอ 3 มาตรการร่วมกับรัฐ เร่งแก้ปัญหาปากท้องประชาชน
สมาคมผู้ค้าปลีกไทยและภาคีเครือข่าย ประกาศตรึงราคาในหมวดสินค้าจำเป็นกว่า 500 รายการ จนจบไตรมาสแรกของปี 65 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน พร้อมกับขอความร่วมมือภาครัฐออกมาตรการเพิ่มเติมช่วยประชาชนฝ่าวิกฤตค่าครองชีพสูง
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า การประชุมครั้งล่าสุดของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย คณะกรรมการฯ ยังคงยืนยันที่จะตรึงราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก ยังต้องประเมินเป็นรายไตรมาส โดยเฉพาะราคาพลังงานและอาหารสด ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของปัญหาค่าครองชีพของประชาชนในขณะนี้
สมาคมฯ ยังเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ที่สามารถอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ โดยเฉพาะโครงการ ‘คนละครึ่ง’ ที่ภาครัฐเข้าไปช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ช่วยจูงใจให้คนไทยออกมาจับจ่ายใช้สอย ถือเป็นประโยชน์โดยตรงต่อเศรษฐกิจภาพรวม ส่วนอีกโครงการคือ ‘ช้อปดีมีคืน’ ที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยจากผู้ที่ยังมีกำลังซื้อ แม้ว่าช่วงเริ่มต้นโครงการจะป็นช่วงการแพร่ระบาดของโอมิครอน โดยทั้ง 2 โครงการ ช่วยนำเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้ประกอบการ และ SMEs ไทยสามารถคงสภาพคล่องและคงการจ้างงานไว้ได้
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย จึงขอนำเสนอมาตรการเพื่อที่จะให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจในภาวะที่ค่าครองชีพสูงและเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย โดยมาตรการในส่วนของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และซัพพลายเออร์ในภาคีเครือข่าย คือ
1) ตรึงราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น 2) เตรียมสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นให้กับประชาชน 3) ช่วยฟื้นฟู SMEs ไทย
ส่วนมาตรการในส่วนของภาครัฐ ประกอบด้วย 1) เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายของภาครัฐ ที่มีวงเงินงบประมาณถึง 3.1 ล้านล้านบาท ให้มีการอนุมัติและดำเนินการเพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว 2) การพยุงราคาพลังงานให้คงที่ โดยการใช้ทุกมาตรการเพื่อพยุงราคาพลังงานให้นานที่สุด 3) กระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน โดยคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
