ป.ป.ส. หารือเกาหลี แก้ปัญหายาเสพติดข้ามชาติ พบ แรงไทยถูกจับในคดีเสพ-ค้ากัญชา กว่า 800 ราย
นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เข้าหารือกับนายชิน โบงซู ผู้อำนวยการสำนักต่อต้านการคอร์รัปชันและการกระทำความผิดโดยใช้ความรุนแรง สำนักงานอัยการสูงสุด (The Supreme Prosecutors’ Office: SPO) แห่งสาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาสเยือนสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อหารือประเด็นมาตรการต่อต้านการค้ายาเสพติด และเพื่อศึกษางานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างไทยและสาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 2 กันยายน 2565 ณ สาธารณรัฐเกาหลี
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การเยือนสาธารณรัฐเกาหลีครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายในการร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติดข้ามชาติระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาทั้งสองประเทศได้ทำงานร่วมกันในการแลกเปลี่ยนข่าวสาร โดยมีการแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ซึ่งสาธารณรัฐเกาหลีมีเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่ สำนักงาน ป.ป.ส. เช่นเดียวกับไทย ที่ส่งเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติงานที่เกาหลีใต้
ทั้งนี้ สถานการณ์ยาเสพติดระหว่างไทยและสาธารณรัฐเกาหลีที่ยังคงเป็นปัญหา คือ เรื่องการลักลอบเสพและค้ายาเสพติด จากแรงงานที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย โดยจากการหารือกับ SPO พบว่า ปี 2564 ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในเกาหลีใต้ 16,153 คน เป็นชาวต่างชาติ 2,339 คน คิดเป็นร้อยละ 14 ของผู้กระทำความผิดทั้งหมด ในจำนวนนี้ ผู้กระทำผิดที่เป็นคนไทย มีจำนวน 888 คน คิดเป็นร้อยละ 37 ส่วนใหญ่กระทำความผิดในข้อหาเสพยาเสพติด ลักลอบลำเลียงและค้า โดยร้อยละ 80 เป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับสารเสพติดที่เกี่ยวกับแอมเฟตามีน รวมถึงเมทแอมเฟตามีน (Amphetamine-Type Stimulants : ATS) กัญชา
นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นผู้อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้แบบผิดกฎหมาย และมักมีพฤติการณ์ในการรวมตัวกันในห้วงวันหยุดเพื่อเสพยาเสพติด โดยหากถูกจับกุมผู้กระทำผิดเหล่านี้จะถูกดำเนินคดี ส่งตัวกลับประเทศ และไม่สามารถเดินทางเข้าเกาหลีใต้ได้อีก
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2565 พบว่ายาเสพติดที่จับยึดได้มีจำนวนลดลงกว่าครึ่ง เมื่อเทียบกับจำนวนยาเสพติดที่จับยึดได้ในห้วงระยะเวลาเท่ากันของปี 2564 สืบเนื่องจากความร่วมมือระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดระหว่างกัน การเข้มงวดในการตรวจสอบพัสดุระหว่างประเทศซึ่งเป็นรูปแบบที่พบบ่อยในการลักลอบขนส่งยาเสพติดซุกซ่อนไปกับสินค้าอื่นๆ เช่น อาหาร เครื่องใช้ในครัวเรือน และเป็นผลมาจากมาตรการที่สาธารณรัฐเกาหลีในความร่วมมือเพื่อขยายผลการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดจากการจับยาเสพติดทุกครั้ง
