‘สีหศักดิ์’ เผยไทยชูปราบปรามสแกมเมอร์ เป็นวาระระหว่างประเทศ
รมว.กต. ‘สีหศักดิ์’ เผยไทยชูปราบปรามสแกมเมอร์ เป็นวาระระหว่างประเทศ นายกฯ ‘อนุทิน’ เตรียมกล่าวในการประชุมระดับผู้นำอาเซียน
วันนี้ (24 ต.ค. 68) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงสาระสำคัญของการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 โดยระบุว่า การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้สำคัญนอกจากผู้นำอาเซียนจะพบกันเองแล้วจะพบผู้นำสำคัญ ทั้ง จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อินเดีย ออสเตรเลีย ซึ่งทุกคนให้ความสำคัญในการร่วมมือปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการสแกมทั้งหลาย เพราะเราเห็นแล้วว่าผลกระทบไม่ได้จำกัดเฉพาะภูมิภาค แต่ส่งผลไปทั่วโลก คนเกาหลีใต้กำลังตกเป็นหยื่อ ในสหรัฐอเมริกาก็ตกเป็นเหยื่อของขบวนการเหล่านี้
“เมื่อวานมีคนหลายสัญชาติ หลบหนีเข้ามาในไทย แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหา ดังนั้นจะทำยังไง ที่เรื่องนี้ไม่ใช่วาระของอาเซียน แต่ควรจะเป็นวาระระหว่างประเทศ อาเซียนให้ความสำคัญต่อเนื่อง มีการประชุมระดับรัฐมนตรีในเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ มีการจัดตั้งคณะทำงานของอาเซียนในการปราบปรามสแกมโดยเฉพาะ ไทยเรามีศูนย์ที่ปราบปรามขบวนการเหล่านี้ และใช้เป็นแกนกลางในการร่วมมือประเทศต่างๆในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ทำยังไงเพื่อใช้กลไกให้มีประสิทธภาพ”
นายสีหศักดิ์ เปิดเผยว่า ไทยจะหยิบยกเรื่องนี้มาหารือในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้แน่นอน และเชื่อว่าหลายประเทศจะเห็นความสำคัญ ร่วมมือกัน ที่สำคัญไทยจะเป็นแกนกลาง แกนนำในการส่งเสริมกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคและระหว่างประเทศในการปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้ ซึ่งจะปรากฏในเอกสารผลลัพธ์ของผู้นำอาเซียน และในถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีของไทยที่จะนำเสนอเรื่องนี้เป็นพิเศษ
“เราพร้อมที่จะมีบทบาทนำในเรื่องนี้ ไทยก็ได้รับผลกระทบทั้งฝั่งเมียนมาและกัมพูชา ไทยมีกลไกภายในประเทศ มีความร่วมมือในกรอบอาเซียน เราอาจต้องคิดกันว่า อาเซียนจะขยายกรอบให้ได้รับความร่วมมือต่างๆ และน่าจะจัดการประชุมเรื่องนี้โดยเฉพาะหรือไม่”
นายสีหศักดิ์ เปิดเผยว่ากรณีที่ชาวต่างชาติกว่า 1,000 คน หลบหนีเข้าไทย ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เราต้องคุ้มครองดูแลคนเหล่านี้ และต้องร่วมมือกันในการสอบสวน เพื่อนำไปใช้ในการปราบปรามและการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม เพื่อให้คนเหล่านี้กลับประเทศได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และให้บุคคลเหล่านี้ได้กลับประเทศโดยเร็ว
“อาเซียนต้องเสริมความเข้มแข็ง เพราะเราเจอความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่าง จีน-สหรัฐฯ เราคงไม่อยากเลือกข้าง เราไม่ได้ว่าเป็นกลาง เราคงต้องพยายามมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสองมหาอำนาจ ไม่อยากให้เขานำความขัดแย้งของเขามาสู่ภูมิภาคของเรา เราเน้นการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับสองมหาอำนาจ ไม่ใช่เฉพาะจีน สหรัฐฯ ที่สำคัญต่อภูมิภาค ยังมีอินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย เราพยายามดึงความร่วมมือของประเทศเหล่านี้ให้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาภูมิภาคของเรา
นายสีหศักดิ์ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ พยายามแสดงให้เห็นถึงบทบาทของเขาในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก อยากเป็นแกนนำส่งเสริมอินโดแปซิฟิกที่เสรี เพื่อแสดงว่าสหรัฐฯ ยังเป็นมหาอำนาจในภูมิภาคนี้ และที่สำคัญมีการเจรจาการค้า อาจจะมีการประกาศบรรลุข้อตกลงเรื่องการเจรจาภาษีกับบางประเทศ อย่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย
“อาเซียนและสหรัฐฯ คุยเรื่องนี้มาตลอด อยากให้สหรัฐฯ ร่วมมือกับเรา และเราพร้อมปราบปรามสแกมเมอร์ คงเป็นเรื่องที่สำคัญ ฃที่อยากให้สหรัฐฯ ร่วมมือกัน รวมถึงจีนก็ได้รับผลกระทบ เกาหลีใต้ ทุกประเทศเน้นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ” นายสีหศักดิ์ กล่าวย้ำ












