ศาลแขวงพิพากษาปธน.โจโก วีโดโด ละเลยการ จัดการมลพิษทางอากาศในกรุงจาการ์ตา
บีบีซี รายงานว่า ศาลแขวงในอินโดนีเซีย พิพากษาประธานาธิบดีโจโก วีโดโด และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคน ละเลยการจัดการมลพิษทางอากาศในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงอินโดนีเซีย ที่มีหมอกควันปกคลุมจากจราจรหนาแน่นและโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ไม่ได้ติดตั้งเครื่องกรอง
เมื่อเดือนมิถุนายน 2019 ชาวเมืองในกรุงจาการ์ตา ราว 30 คน ประกอบไปด้วยกลุ่มนักเคลื่อนไหว นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ข้าราชการพลเรือน จิตรกร และนักธุรกิจ ยื่นฟ้องรัฐบาลประเทศตนเอง ให้แก้ปัญหามลพิษทางอากาศอย่างจริงจัง และปรับปรุงมาตรการเดิมให้ดีขึ้น
สาเหตุของปัญหา คาดว่ามาจากการจราจรในเมืองและการทำอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย แต่รัฐบาลดูเหมือนจะเพิกเฉยต่อปัญหาเหล่านี้ จนนำไปสู่การยื่นฟ้อง โดยพุ่งเป้าไปที่ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสิ่งแวดล้อม ผู้ว่าฯกรุงจาการ์ตา จังหวัดบันเติน และจังหวัดชวาตะวันตก
มลพิษทางอากาศในกรุงจาการ์ตา อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ค่อยดีนักในช่วงก่อนการยื่นฟ้อง โดยมีคุณภาพอากาศย่ำแย่กว่าเมืองปักกิ่งของจีน และเดลีของอินเดีย
งานวิจัยจาก University of Chicago แสดงให้เห็นว่าสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในกรุงจาการ์ตา อาจทำให้อายุประชากรในเมืองนี้สั้นลงไปถึง 2.3 ปี จากอายุไขเฉลี่ยของชาวเมือง โดยมี PM2.5 เป็นปัจจัยหลัก ที่ส่งผลให้คนเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และก่อให้เกิดโรคอื่นๆตามมาอีกมากมาย
ตัวเลขจาก Greenpeace Indonesia ตอกย้ำภาพปัญหานี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น มีการประมาณว่า ในแต่ละปีมีชาวเมืองจาการ์ตาอย่างน้อย 7,390 คน เสียชีวิต ขณะที่เด็กแรกเกิดเกือบ 2,000 คน มีน้ำหนักตัวน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เพราะค่า PM2.5 ที่สูงอย่างมาก
