พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผย มีคนไทยติดในเล้าก์ก่ายเพิ่มกว่า 300 คน
พิสูจน์บุคคลให้ทางการเมียนมาแล้ว แต่ยังไม่สามารถอพยพออกมาได้ จากเหตุสู้รบในพื้นที่รุนแรง รอทางการเมียนมายืนยันเส้นทางอีกครั้ง ขณะที่กองกำลังว้า ช่วยคนไทยได้กว่า 40 คน คาดช่วยส่งตัวกลับไทยผ่านท่าขี้เหล็ก พร้อมเตรียมประชุมร่วมกับ 3 กระทรวง ทำแผน NRM รองรับการอพยพคนไทย
วันนี้ (13 พ.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการช่วยเหลือคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา ภายหลังเมียนมาประกาศกฎอัยการศึก ระบุว่า จำนวนคนไทยที่ติดอยู่ในเมืองเล้าก์ก่ายจาก 162 ราย ขณะนี้เพิ่มไปกว่า 300 ราย และสามารถพิสูจน์บุคคลได้แล้ว และส่งให้กับให้กับทางการเมียนมาเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถให้การช่วยเหลือนำกลับได้เนื่องจากพื้นที่รอบข้างยังมีการสู้รบกันอย่างหนักอยู่
ทั้งนี้ มีคนไทยประมาณ 40 คน ที่หัวหน้ากองกำลังว้าช่วยออกมาได้ ซึ่งตนได้ประสานแล้วทราบว่า จะถูกส่งข้ามผ่านแดนบริเวณท่าขี้เหล็กให้กับเราก่อน ซึ่งเราพร้อมที่จะไปรับทันที แต่อีก 200-300 คนที่ยังติดอยู่ในเล้าก์ก่าย ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ หากนำออกมาเกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงต้องรอการยืนยันการเคลื่อนย้ายจากทางการเมียนมาอีกครั้ง
นอกจากนี้ จะร่วมพูดคุยกับทางการจีนด้วยส่วนนึง เพราะอาจจะมีวิธีการกดดันในการพาคนไทยให้ออกมาได้ ส่วนเรื่องเส้นทางการเคลื่อนย้ายนั้นจะต้องรอพูดคุยกันให้แล้วเสร็จ เพราะเมียนมาระบุว่าจะเคลื่อนคนไทยพาเมืองลาโช เพื่อเข้าเมืองย่างกุ้ง แต่ทางการจีนจะเอาขึ้นไปยังเมืองคุนหมิง หรือไปเมืองเชียงตุง เนื่องจากการวางกำลังตลอดเส้นทางไปของประเทศเมียนมา จึงต้องรอข้อสรุป เพราะหากมีการเคลื่อนย้ายออกมา แล้วมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่
ตามที่ตนเองได้พูดคุยกับทางการเมียนมาว่าจะขอนั่งเฮลิคอปเตอร์เข้าไปดูคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย พร้อมกับเจ้าหน้าที่ทูตของไทย ยังไม่ได้รับอนุญาตเนื่องจากสภาวะสงครามมีความรุนแรง และอันตรายมาก ไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ระหว่างรอฝั่งเมียนมา จะเตรียมการรับคนไทย โดยจะร่วมประชุมกับปลัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เรื่องการวางกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM เพื่อเอาคนไทยออกมาได้อย่างไรให้ปลอดภัย และการเตรียมการรับคนไทยบริเวณท่าขี้เหล็กในการสู่กระบวนการคัดแยกต่อไป
