พระพยอมปลง ไม่ฟ้องร้องใครกลับ “ที่ดินโฉนดถุงกล้วยแขก” รอคำสั่งบังคับคดีก่อนรื้อ
“พระพยอม ยังไม่รื้อที่ดิน ‘โฉนดถุงกล้วยแขก’ รอคำสั่งบังคับคดี พร้อมรื้อออกวันสุดท้าย ย้ำ ไม่ฟ้องร้องใครกลับ เพราะไม่อยากมีเวรกรรม มองที่ดินดังกล่าวแม้จะเป็นทำเลทอง แต่ทำกินไม่ขึ้น”
พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวถึงกรณีการเตรียมรื้อที่ดินข้อพิพาท หรือที่รู้จักกันในนามที่ดิน ‘โฉนดถุงกล้วยแขก’ ซึ่งนางวันทนา สุขสำเริง นำมาขายให้กับมูลนิธิวัดสวนแก้ว มูลค่า10ล้านบาท จากนั้นทายาทเจ้าของที่ดินเดิมได้ทำการฟ้องร้อง และชนะคดี ว่า ขณะนี้ ยังไม่ดำเนินการรื้อถอน โดยจะรอหมายศาลให้มีคำสั่งมาปิดเพื่อบังคับคดีก่อน และจะดำเนินการในวันสุดท้ายตามที่มีระยะเวลากำหนดออกมา เนื่องจากที่ผ่านมา หลวงพ่อรอมา 2 ปี 7 เดือน และตอนนี้มีแค่จดหมายขู่ และมากั้นรั้วไว้เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ที่ดินบริเวณดังกล่าว ก็ไม่ได้ใช้งานอะไร มีแค่คนไปอาศัยนอนอยู่ครอบครัวเดียวเท่านั้น
พระพยอมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการอวสานวัดสวนแก้ว เพราะเป็นเพียงที่ดินส่วนเดียวจาก 210 ไร่ของวัด และไม่คิดจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับใคร เพราะไม่อยากมีเวรมีกรรม รวมถึงนางวันทนา สุขสำเริง ผู้ขายที่ให้พระพะยอมขณะนั้นด้วย เพราะนางวันทนาก็หมดตัวไม่มีเหลืออะไรเลย น่าสงสาร
ทั้งนี้พระพยอมแค่ตั้งข้อสงสัยว่า
ทำไมทนายความคนแต่งเรื่อง เจ้าหน้าที่ผู้ออกโฉนด คนปั๊มโฉนด คนนำมาขาย ถึงไม่มีใครผิด
สำหรับที่ดินที่เป็นข้อพิพาท ทำเลอยู่ติดถนนใหญ่เป็นทำเลทอง จึงมีความตั้งใจเดิมว่าจะทำเป็นตลาดขายย่อยๆ ให้กับคนไม่มีที่ทำกินได้เข้ามาขายของ และจะทำสะพานข้ามด้วย ส่วนคู่ความที่ฟ้องร้องคดี จะนำที่ดินตรงนั้นไปทำอะไรต่อ หลวงพ่อไม่ทราบ แต่มองว่า ที่ดินดังกล่าวก็คงทำมาหากินไม่ขึ้น เพราะเคยมีปัญหาที่เป็นกรณีธรณีของสงฆ์ และที่ต้องการนำที่ดินคืนไปก็คงเพราะความอยากได้อยากมี และไม่มีการเจรจาคดีใดๆอีก เจอกันเฉพาะบนศาลเท่านั้น และคู่ความก็มีท่าทีแข็งกร้าว ไม่ผ่อนปรน และที่หลวงพ่อยอมแพ้ เพราะสู้คดีไม่ได้แล้ว เนื่องจากคนขายให้ต่อ คือ นางวันทนา ยอมเซ็นต์ให้เป็นพื้นที่เช่า โดยพระพยอม เล่าอีกว่า วันนี้ออกไปบิณฑบาตร มีประชาชน เข้ามาแสดงความเห็นใจ และให้กำลังใจ บอกให้หลวงพ่อสู้ๆ กันจำนวนมาก
