ผู้ว่าฯ จ.สุรินทร์ เผยเตรียมอพยพประชาชนเพิ่ม หลังกระสุนตกในอำเภอปราสาท
ผู้ว่าฯ จ.สุรินทร์ เผยเตรียมอพยพประชาชนเพิ่ม หลังกระสุนตกในอำเภอปราสาท ชี้ ไม่อยู่ในแผนอพยพ แต่หากมีการยิงกันต่อเนื่อง จะต้องออกจากพื้นที่ ยัน จังหวัดมีความพร้อมด้านศูนย์พักพิงเพียงพอ ย้ำ ต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวัน
วันนี้ (26 ก.ค. 68) นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ว่า ขณะนี้มีเสียงปืนใหญ่ยิงกันตามแนวชายแดนแล้ว ซึ่งเมื่อวานนี้มีการประทะกันตั้งแต่ช่วง 05:30 น. จนถึงในช่วงเย็น ยิงตลอดทั้งวัน แต่จะมีการพักเป็นบางช่วง ซึ่งกระสุนได้มาตกในพื้นที่อำเภอปราสาท ในพื้นที่ตำบลปรือ ตำบลโคกสะอาด ส่งผลให้พี่น้องอำเภอปราสาทบางตำบล ที่โดนกระสุนตก ซึ่งจากเดิมไม่อยู่ในแผนอพยพ ตอนนี้เริ่มไม่สบายใจ จะขออพยพด้วย และกำลังประเมินสถานการณ์เพื่อหาจุดพักพิงชั่วคราว หรือจุดอพยพเพิ่มมากขึ้นที่อยู่ในอำเภอเมือง หรือบริเวณใกล้อำเภอเมือง ต้องรอดูการประเมินสถานการณ์ในวันนี้ก่อน หากคิดว่าแนววิถีกระสุนยังยิงมาในโซนที่พี่น้องไม่สบายใจ ก็คงต้องอพยพมา พร้อมย้ำว่า เป็นการประเมินวันต่อวัน และขณะนี้มีการเตรียมพักพิงรองรับเอาไว้แล้ว
นายชำนาญ ยืนยันว่า ทางจังหวัดมีสถานที่ และมีความพร้อมพอ หากมีการอพยพเพิ่ม มีการใช้วัด โรงเรียนที่เป็นศูนย์พักพิงปัจจุบันนี้ ซึ่งบางจุดมีการรองรับได้ 1,000 คน เราก็พยายามไม่ให้แออัดมาก เพื่อให้พี่น้องได้อยู่สะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ตอนนี้เรามีโรงเรียน วัดในเขตอำเภออื่นเพียงพอ
สำหรับประชาชนบางส่วนที่ยังไม่อพยพ เพราะเป็นห่วงบ้านนั้น นายชำนาญ ระบุว่า ในช่วงวันแรกบางคนคิดว่าเหมือนการปะทะกันในปี 54 ที่ไม่รุนแรง มีการประทะกันในช่วงเช้า และหลังจากนั้นก็หยุดไป ช่วงที่มีการยิงกันก็ไปหลบอยู่ในหลุมหลบภัยได้ ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะจบไป แต่ปีนี้ในวันแรกบางคนยังไม่ออกมา ซึ่งเมื่อวันแรกผ่านไป มีการยิงกันตลอดวัน ก็เริ่มทยอยออกมาเพิ่มมากขึ้นแล้ว พยายามไม่ให้เหลือผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วย ให้เหลือแต่ผู้ชายที่แข็งแรงหรือชุด ชรบ. ซึ่งส่วนหนึ่งเราขอร้องให้อยู่เพื่อดูแลทรัพย์สินและความปลอดภัยในเรื่องขโมย หรือสัตว์เลี้ยงที่เรายังไม่สามารถนำออกมาได้ เพราะการอพยพสัตว์เลี้ยงใช้เวลานาน ซึ่งมีการยิงกันตลอดวัน จึงไม่กล้าอพยพสัตว์เลี้ยงออกมา เราก็มีแผนว่าให้เอาชีวิตคนไว้ก่อน
สำหรับในพื้นที่ศูนย์พักพิงยังขาดเหลืออะไรบ้างนั้นนายชำนาญ ระบุว่า จริง ๆ เรามีงบประมาณ ของทางราชการ ซึ่งใน 2 – 3 วันแรก ให้ใช้งบจากทางต้นทางมาดูแล และต่อมาก็เป็นงบประมาณของอำเภอ ที่มาจากรัฐบาลเข้ามาดูแลต่อในเรื่องอาหาร ซึ่งการอยู่ที่ศูนย์พักพิง ก็ไม่สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน ทั้งเรื่องห้องน้ำ ห้องสุขา ที่อาจไม่เพียงพอ แต่เราสามารถนำงบมาปรับปรุงชั่วคราวได้ แต่ใช้เวลา 1 – 2 วันถึงจะได้ทำเพิ่มเติม ส่วนการบริจาคสิ่งของจากพี่น้องชาวสุรินทร์และทั่วประเทศ ก็มีการบริจาคมาจำนวนมาก
ส่วนหลุมหลบภัยขณะนี้ เราได้เงินจากการบริจาคมามากพอสมควร ส่วนคนที่มีศักยภาพก็ทำหลุมหลบภัยของตัวเองส่วนงบประมาณของราชการขนาดนี้นั้น ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมา ของส่วนท้องถิ่นก็มีการใช้งบประมาณในการทำหลายแห่งแล้ว ให้ทำในพื้นที่ศูนย์เด็กเล็ก แต่ก็ต้องบอกว่ายังไม่พอ
นายชำนาญ ระบุว่า งบประมาณที่มีการอนุมัติให้ในพื้นที่ 4 จังหวัด จังหวัดละ 100 ล้านบาทนั้น ก็มีกำหนดในการใช้อยู่ตามลำดับขั้น ซึ่งจะต้องใช้ในเรื่องของอาหารก่อน และนอกนั้นจะนำมาปรับปรุงสภาพการอยู่ในศูนย์พักพิง เช่น สุขาชั่วคราว สาธารณูปโภค โดยมีระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการใช้อยู่












