AROUND THAILAND

เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ประกาศห้ามเผา 60 วัน

เกษตรกรในหลายพื้นที่ ในจังหวัดทางภาคเหนือ เร่งเผาเศษวัสดุและพื้นที่ทางการเกษตร เพื่อเตรียมแปลงเพาะปลูกรอบใหม่ ก่อนที่จังหวัดจะประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาด ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่งผลทำสถานการณ์หมอกควันในหลายพื้นที่ภาคเหนือเริ่มมากขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศปิด ส่งผลต่อทัศวิสัยในการมองเห็น ขณะขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนน

ล่าสุด นายพุฒิพงษ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ประกาศขอความร่วมมือประชาชนและเกษตรทั้ง 18 อำเภอ หลีกเลี่ยงการเผาเพื่อลดการสะสมของหมอกควันพร้อมกับออกประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดโดยเด็ดขาด เป็นเวลา 60 วัน ทุกพื้นที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. – 15 เม.ย. 66 โดยให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เป็นแบบอย่าง ไม่เผาวัสดุทุกชนิด พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบละปฎิบัติอย่างเคร่งครัด ทั้งในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรม ห้ามเผาขยะมูลฝอย กิ่งไม้ใบไม้ และห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิด หากฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุก 3 เดือน และปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนกรณีห้ามเผาในพื้นที่ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ วนอทุยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หากฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุก 1 – 30 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 – 3,000,000 บาท รวมถึงเขตพื้นที่ทางหลวง และทางหลวงท้องถิ่นต่างๆ หากตรวจพบพื้นที่ใดมีไฟและเกิดจุดความร้อน (hotspot) ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนงานที่รับผิดชอบพื้นที่นั้นๆ และนายอำเภอ ต้องเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อรายงานสถานการณ์และแนวทางมาตรการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนทันที

ด้านนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์บัญชาการและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่น PM2.5 แบบบูรณาการ ร่วมมือกับกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน พร้อมกำหนดห้ามเผาในที่โล่ง ระหว่างวันที่ 15 ก.พ. – 16 เม.ย. 66 รวมเป็นเวลา 75 วัน

นอกจากนี้ ยังประกาศเรื่องมาตรการป้องกันการจุดไฟเผาในที่โล่งและพื้นที่เกษตร รวมถึงกำหนดเขตควบคุมไฟป่า และมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมไฟป่าในเขตป่าไม้ โดยมีพื้นที่บริหารจัดการพิเศษซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีไฟไหม้ซ้ำซากใน จ.เชียงใหม่ ปี 2566 ประกอบด้วย ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว , อ.แม่ออน รอยต่อ อ.สันกำแพง , บริเวณเขื่อนแม่กวง อ.ดอยสะเก็ด , ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม , อ.สะเมิง , อ.สันทราย , ต.บ้านปง อ.หางดง และ อ.ฮอด รอยต่อ อ.ดอยเต่า ตั้งเป้าลดจุดความร้อนจากไฟป่า ลดค่าคุณภาพอากาศที่เกินมาตรฐาน และลดพื้นที่เผาไหม้ให้ลดลง 20% ของค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง

ขณะที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา ออกประกาศเรื่อง กำหนดช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาดและมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมในท้องที่จังหวัดพะเยา ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 30 เม.ย. 66 เพื่อเป็นการควบคุมและลดมลพิษจากการเผาในที่โล่ง การเกษตร และในพื้นที่ป่า ประกอบด้วย ในเขตพื้นที่ชุมชนห้ามไม่ให้กำจัดวัชพืช ขยะหรือสิ่งอื่นใดโดยการเผาเด็ดขาด , ในพื้นที่การเกษตร เมื่อมีความจำเป็นต้องเผาวัชพืช ก่อนมีการประกาศห้ามเผาเด็ดขาด ให้ขออนุญาตจากกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน เพื่อแจ้งต่อนายอำเภอก่อนดำเนินการเผาทุกครั้ง พร้อมกับจัดทำแนวกันไฟและควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ

หากไม่แจ้งขออนุญาตต่อกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน หรือขออนุญาตแล้ว แต่ไม่จัดทำแนวกันไฟและไม่ได้ควบคุมไฟให้อยู่ในพื้นที่ที่ตนถือครอง จนเป็นเหตุให้ไฟลุกลาม ให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านแจ้งต่อนายอำเภอท้องที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนหรือปล่อยปละละเลยโดยเฉียบขาดทุกราย

Related Posts

Send this to a friend