GISTDA เผยจุดความร้อนไทยวานนี้ พุ่งสูงสุดถึง 2,269 จุด แนะประชาชนในพื้นที่ ดูแลสุขภาพจากฝุ่น PM2.5
GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) โดยประเทศไทยพบจุดความร้อน เมื่อวานนี้ (23 ก.พ. 2566) จำนวน 2,269 จุด ในขณะที่จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้าน อย่างสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ยังครองอันดับหนึ่งอยู่ที่ 3,142 จุด รองลงมาคือกัมพูชา 2,514 จุด,สปป.ลาว 1,582 จุด,เวียดนาม 371 จุด และมาเลเซีย 19 จุด ทั้งนี้ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่พบจุดความร้อน ที่เป็นสาเหตุของฝุ่น PM2.5 สวมใส่หน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจ
สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทยส่วนใหญ่ พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,016 จุด,พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 633 จุด,พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 239 จุด,พื้นที่เกษตร 217 จุด,พื้นที่เขต สปก. 144 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 20 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 5 อันดับคือจังหวัดกาญจนบุรี 357 จุด,จังหวัดตาก 182 จุด,จังหวัดอุตรดิตถ์ 136 จุด,จังหวัดชัยภูมิ 135 จุด,จังหวัดกำแพงเพชร 114 จุด ตามลำดับ
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่า และจุดความร้อน คือ ฝุ่น PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อน จากประเทศเพื่อนบ้าน อาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากประแสลม ที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้นในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติ ที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญ ให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอพพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 10.00 น.พบว่าในหลายจังหวัดของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ จังหวัดอำนาญเจริญ จังหวัดยโสธร จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดนครพนม อยู่ระดับที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ รวมถึงพื้นที่ของกรุงเทพมหานครด้วย แต่อย่างไรก็ตามก่อนออกจากบ้าน ควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา
