AROUND THAILAND

รองฯ ทวิดา ถอดบทเรียนไฟไหม้บ่อนไก่ เตรียมทบทวนแผนจัดระเบียบสายไฟทั่ว กทม.

รองฯ ทวิดา ถอดบทเรียนไฟไหม้บ่อนไก่ เตรียมทบทวนแผนจัดระเบียบสายไฟทั่ว กทม. ด้าน หัวหน้าดับเพลิง แจงปมประปาหัวแดง พบมี 5 หัวทั่วชุมชน

วันนี้ (22 มิ.ย. 65) ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ชุมชนบ่อนไก่พัฒนา หลังเกิดเหตุไฟไหม้เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับมาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเสื้อผ้า และเด็กๆ ที่ต้องไปโรงเรียน จากการลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวพบว่า พื้นที่ค่อนข้างคับแคบ กำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการขยับขยายที่อยู่ชั่วคราวนี้

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังได้สั่งการให้ถอดบทเรียนเหตุไฟไหม้ครั้งนี้อย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงบ้านเรือน ระบบไฟ ตรอกซอกซอยที่คับแคบ ปั๊มน้ำที่มีไม่ทั่วถึง และระยะที่จะดึงสายฉีดน้ำเข้าไปในจุดเสี่ยง

ผศ.ดร.ทวิดา กล่าวว่า จากรายงานพบว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเหตุไฟไหม้มักเกิดจากไฟไหม้สายสื่อสารในพื้นที่ชุมชนหนาแน่น เพราะมีการใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก กทม.จึงห่วงกรณีไฟฟ้าลัดวงจร จากนี้ต้องเร่งทบทวนแผนจัดระเบียบสายไฟ และตรวจตราสภาพสายไฟทั่ว กทม.

นายนพรัตน์ ปฏิแพทย์ หน.ส.ดพ.บ่อนไก่ กองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 2 ชี้แจงประเด็นประปาหัวแดงดับเพลิงในชุมชนบ่อนไก่พัฒนาว่า รอบชุมชนมีประปาหัวแดงอยู่อย่างน้อย 5 หัว ในระยะ 50 เมตร อาจจะไม่เพียงพอต่อการดับเพลิง เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องแรงดันน้ำ ที่ต้องลากสายฉีดเข้าไปดับไฟตามตรอกซอกซอย โดยอุปสรรคอยู่ที่พื้นที่ค่อนข้างคับแคบทำให้ปฏิบัติงานได้อย่างยากลำบาก ส่วนภาพประปาหัวแดงที่ถูกโบกปูนหน้าตู้ซักผ้านั้น เป็นประปาหัวแดงที่ไม่ได้ใช้งานนานแล้ว ซึ่งยังไม่ได้นำออกไป และบริเวณใกล้เคียงก็มีอีกหัวที่ยังใช้งานได้อยู่

สำหรับสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้มาจากไฟฟ้าลัดวงจร จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ระบุว่า ไฟไหม้สายเมนไฟฟ้า จากนั้นสายไฟขาดเปลวไฟจึงตกไปที่บ้าน 2 หลัง ห่างกัน 4-5 คูหาก่อนลุกลามไปครัวเรือนอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าระหว่าง ผศ.ดร.ทวิดา ลงพื้นที่พบประชาชนจำนวนหนึ่งทยอยกลับมายังบ้านเรือนแม้ไฟฟ้าจะยังใช้การไม่ได้ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทะเบียนจากสำนักงานเขตปทุมวัน ลงพื้นที่เข้ามาสำรวจจำนวนสำมะโนครัว ส่วนสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยก็ลงพื้นที่สำรวจสภาพบ้านเรือนประชาชนเช่นกัน เบื้องต้นผู้ประสบภัยที่เป็นเจ้าของบ้านจะได้รับเงินเยียวยา 49,500 บาท โดยประเมินจากภาพความเสียหาย และการสัมภาษณ์ผู้ประสบภัย

ผู้ประสบภัยที่ไม่ใช่เจ้าของบ้านจะได้รับเงินเยียวยา 3,800 บาท จากนี้จะเร่งทำประกาศพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ และออกหนังสือรับรองผู้ประสบภัยจากสำนักงานเขต ก่อนจ่ายเงินเยียวยาภายใน 90 วัน

เรื่อง: ณัฐพร สร้อยจำปา
ภาพ: พุฒิพงศ์ ธัญญพันธุ์

Related Posts

Send this to a friend