AROUND THAILAND

กลุ่มประชาชนคนไทยยื่นหนังสือสถานทูตจีนฯ หลังสหรัฐยกไทยเป็นพันธมิตรใกล้ชิด หวั่นกระทบสัมพันธ์

กลุ่มประชาชนคนไทยยื่นหนังสือต่อสถานทูตจีนฯ หลังสหรัฐยกไทยเป็นพันธมิตรใกล้ชิด หวั่นกระทบความสัมพันธ์ไทย – จีน

วันนี้ (21 ก.พ. 65) นายนิติธร ล้ำเหลือและนายพิชิต ไชยมงคลพร้อมด้วยกลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) เข้ายื่นหนังสือที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเเสดงจุดยืนและข้อพิจารณาต่อสถานการณ์ในภูมิภาคและความสัมพันธ์ไทย – จีน

สืบเนื่องจากทําเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีการเผยแพร่รายงานยุทธศาสตร์อินโด แปซิฟิก ของสหรัฐอเมริกา (INDO-PACIFIC STRATEGY OF THE UNITED STATES) จัดหาโดย กระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา โดยระบุถึงประเทศไทยว่าเป็นจุด ยุทธศาสตร์สำคัญของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกในฐานะพันธมิตรของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ ณ จุดศูนย์กลาง อาเซียน

นอกจากนี้ยังระบุว่า ภูมิภาคเอเชียจะมีความมั่นคง ต้องหมายถึงว่าจีนต้องไม่มีบทบาท และสหรัฐอเมริกาต้องเป็นผู้นำแห่งเอเชียแปซิฟิก สหรัฐฯ จึงจะเกิดความมั่นคงนอกจากนี้ในเอกสารยังระบุว่าไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศพันธมิตรใกล้ชิด ด้วยสนธิสัญญาที่แข็งแกร่ง คือ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย

รวมทั้งก่อนหน้าในเดือนพฤศจิกายน 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยได้ร่วมลงนามในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่าง ไทย – สหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2060 ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศเพื่อร่วมต่อต้านศัตรู จนกระทั่งทำเนียบขาวนำชื่อประเทศไทยไปใส่ไว้ในรายงานยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการว่า เป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่มีสนธิสัญญาผูกพันกัน

กลุ่มประชาชนคนไทยติดตามสถานการณ์ต่างๆ เหล่านี้ด้วยความห่วงกังวลว่าจะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าประเทศไทยจะไม่รักษาดุลยภาพของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หากเกิดความขัดแย้งด้วยกำลังอาวุธขึ้นภายในภูมิภาคนี้ ด้วยเหตุดังกล่าว กลุ่มประชาชนคนไทยจึงขอเรียนมายังท่านเพื่อส่งผ่านความปรารถนาดีและสื่อสารข้อเท็จจริงมายังรัฐบาลและประชาชนของสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า

  1. ประชาชนไทยยังคงความเป็นมิตรกับจีนนับแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน อันถือเป็นความสัมพันธ์ต่อเนื่องยาวนานที่มากยิ่งขึ้นด้วยความอบอุ่นงดงาม บนพื้นฐานความร่วมมือในหลากหลายมิติ เพื่อพัฒนาความมั่นคงความเจริญของประเทศ และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน โดยต่างยึดถือหลักคุณธรรมเคารพยอมรับความมีอธิปไตยให้เกียรติกันและกันอย่างจริงใจ
  2. ขณะนี้สหรัฐฯ พยายามสร้างสถานการณ์ซับซ้อนหลากรูปแบบหลายวิธีการ โดยเฉพาะการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เพื่อก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรงโดยใช้ตัวแทนภายใต้การกดดันด้วยการคว่ำบาตร การสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์กองกำลังทหาร บนพื้นฐานที่ประเทศต่างๆและประชาคมโลกเป็นผู้จ่ายต้นทุน สูญเสียทรัพยากร และแบกรับความเสียหายแทนสหรัฐฯ กลุ่มประชาชนคนไทยจึงมีข้อห่วงกังวลต่อพฤติกรรมของสหรัฐฯ อันจะมีผลในทางไม่พึงประสงค์ต่อมิตรภาพความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างไทยและจีน
  3. กลุ่มประชาชนคนไทยจะใช้กลไกต่างๆ เพื่อติดตามตรวจสอบสนธิสัญญาและแถลงการณ์ต่างๆ ที่รัฐบาลไปลงนามและมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีกับมิตรประเทศโดยที่ประชาชนไม่ทราบในรายละเอียดและข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด
  4. บรรดาการดำเนินการใดที่รัฐบาลซึ่งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กระทําโดยอาจก่อให้เกิดข้อสงสัยในความสัมพันธ์อันดีงามของประเทศไทยกับประเทศจีนและมิตรประเทศอื่นๆ อันเสมือนหนึ่งเป็นการเลือกข้างนั้น ย่อมจักเป็นการกระทําโดยไม่ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชนชาวไทยและประชาชนชาวไทยจะร่วมคัดค้านอย่างถึงที่สุด

กลุ่มประชาชนคนไทยจึงเรียนมาเพื่อขอยืนยันว่า ประชาชนไทยยึดมั่นในนโยบายต่างประเทศอย่างสันติมีความเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง และพร้อมเป็นพันธมิตรกับทุกประเทศ โดยเคารพยอมรับอธิปไตยให้เกียรติซึ่งกันและกันอย่างเท่าเทียม ยึดมั่นในเส้นทางของการพัฒนาอย่างสันติภายใต้แนวคิดการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันด้วยหลักเมตตาคุณธรรมแบ่งปันค้ำจุน ยึดถือหลักนิติธรรมและความเป็นธรรม ยืนหยัดต่อความถูกต้องเพื่อความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนของมนุษยชาติ

ประการสำคัญกลุ่มประชาชนคนไทยขอแสดงความขอบคุณต่อบรรดาความสนับสนุนต่างๆ ของจีน ที่ก่อเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต่อประเทศและประชาชนชาวไทย ซึ่งจะอยู่ในความทรงจํา และระลึกถึงอยู่เสมอ

“ยืนยันว่าไทยยังคงมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศสหรัฐ แต่ว่าการดำเนินการของนายใบเด้น ที่เอาชื่อประเทศไทยไปกล่าวอ้างที่ทำเนียบขาวเป็นการกระทำที่ห่างไกลกับคำว่ามารยาทในการทูตอย่างร้ายแรง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทราบดีอยู่แล้วว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบทางใดทางหนึ่งต่อมิตรประเทศของไทย จึงเป็นเหตุสำคัญที่ต้องมาแสดงเหตุผลข้อเท็จจริงของประชาชนคนไทยต่อประเทศจีนและประชาชนคนจีน” นายนิติธร กล่าว

หลังจากนายพิชิตได้อ่านแถลงการณ์ดังกล่าวจบลง ก็ไม่ได้มีตัวแทนจากทางสถานเอกอัครราชทูตฯมารับหนังสือ จึงได้นำหนังสือนั้นติดไว้บริเวณป้ายด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตฯ และกล่าวว่า พรุ่งนี้เวลา 10.30 น. จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาด้วย

Related Posts

Send this to a friend