สศช. เผยปี 64 คนไทยจนขึ้นเกิน 8 ล้านคน เด็กไทยหลุดจากระบบการศึกษาเกือบ 3 แสนคน

น.ส.วรวรรณ พลิคามิน รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช. ได้พัฒนาดัชนีความยากจนหลายมิติ เพื่อใช้วัดคนจนใน 4 มิติ คือ ด้านการศึกษา การใช้ชีวิตในแบบที่ดีต่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ การเงิน ร่วมกับอีก 3 ตัวชี้วัด เพื่อเทียบกับความยากจนที่วัดผ่านเกณฑ์รายได้

ทั้งนี้ พบว่าปี 2564 มีคนจนเพียง 4.4 ล้านคน แต่หากวัดตามดัชนีความยากจนหลายมิติจะพบว่ามีคนจนสูงถึง 8.1 ล้านคน โดยมิติสำคัญที่พบมากสุด คือ ด้านความเป็นอยู่ ที่มีสูงถึง 35% รองลงมาคือความมั่นคงด้านการเงิน 29%

เมื่อขยายความยากจนครอบคลุมถึงการขาดแคลน ขัดสน หรือโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ความสามารถในการเข้าถึงบริการ และการช่วยเหลือของภาครัฐ พบว่า ปี 2564 มีประเด็นปัญหาต่างๆ ที่คนจนได้รับผลกระทบ เช่น เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาถึง 2.8 แสนคน ส่วนด้านสุขภาพ พบว่าคนไทยมีความเครียดสูง เสี่ยงซึมเศร้า และเสี่ยงเกิดการฆ่าตัวตาย

หากแบ่งตามพื้นที่ จะพบว่า คนที่อยู่นอกเขตเทศบาลมีความจนหลายมิติมากกว่าในเขตเทศบาล สัดส่วน 18% เมื่อเทียบกับเทศบาลที่มีเพียง 6.6% เท่านั้น โดย 1 ใน 3 เป็นผู้สูงอายุถึง 36.9% และยังพบว่ากลุ่มที่ไม่มีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ เช่น เด็ก ผู้ว่างงาน คนชรา คนป่วย มีสูงถึง 51.5% แรงงานนอกระบบ 21% โดยคนจนที่ไม่มีส่วนทางเศรษฐกิจ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 29.3% ในปี 2556 เป็น 51.5% ในปี 2564