กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศล่วงหน้า 7 วัน 17-23 มี.ค.66
ภาคเหนืออากาศร้อน 38 องศาฯ ประชาชนหมั่นดูแลสุขภาพ ภาคกลาง-อีสาน อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวกลางวัน
วันนี้ (17 มี.ค. 66) กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศ ใน 7 วันหน้า มีผลตั้งแต่วันที่ 17-23 มีนาคม 2566 ขอให้ประชาชนที่อยู่บริเวณตอนบนของประเทศไทย หมั่นดูแลสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง และมีอากาศร้อนอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 31-38 องศาเซสเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศร้อนและมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนภาคกลาง กทม.และปริมณฑลมีอากาศร้อน และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
สำหรับการคาดหมายลักษณะอากาศใน 7 วันข้างหน้า ระหว่าง 17-23 มีนาคม 2566 เริ่มจากภาคเหนือ พบอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 31-38 องศาเซสเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 21-24 องศาเซลเซียส และฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองอยู่ที่ร้อยละ 10-20 %ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 19-23 มีนาคม 2566
ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงระหว่างวันที่ 17-23 มีนาคม 2566 พบอากาศร้อนอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 34-39 องศาเซสเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 21-26 องศาเซสเซียส และมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20% ของพื้นที่
ขณะที่ภาคตะวันออก ช่วงระหว่างวันที่ 17-18 มีนาคม 2566 พบอากาศร้อนตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 32-38 องศาเซสเซียส อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 23-25 องศาเซสเซียส มีฝนฟ้าหลัวตอนกลางวัน ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 % ของพื้นที่ ส่วนช่วงระหว่างวันที่ 19-23 มีนาคม 2566 อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 33-38 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 24-28 องศาเซสเซียส พบอากาศร้อนและฟ้าหลัวตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 %ของพื้นที่ ส่วนมากพบที่บริเวณชายฝั่ง
ด้านภาคกลาง ช่วงวันที่ 17-18 มีนาคม 2566 พบอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 33-37 องศาเซสเซียส อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 23-25 องศาเซสเซียส และฟ้าหลัวตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 % ของพื้นที่ ส่วนวันที่ 19-23 มีนาคม 2566 พบอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 35-39 องศาเซสเซียส อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 25-27 องศาเซสเซียส ฟ้าหลัวตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 %ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนกทม.และปริมณฑล ช่วงวันที่ 17-18 มีนาคม 2566 พบอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 32-37 องศาเซสเซียส อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 24-26 องศาเซสเซียส และฟ้าหลัวตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 % ของพื้นที่ ส่วนช่วงวันที่ 19-23 มีนาคม 2566 พบอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 33-38 องศาเซสเซียส อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 25-29 องศาเซสเซียส และฟ้าหลัวตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 %ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ช่วงวันที่ 17-23 มีนาคม 2566 พบฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 % ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 32-36 องศาเซสเซียส ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 23-27% ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออก ช่วงวันที่ 17-23 มีนาคม 2566 พบฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 % ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 31-36 องศาเซสเซียส ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 21-28 องศาเซสเซียส
