‘โครงการพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของช้าง’ เปิดรับสมัครปางช้างเข้าร่วมโครงการ ดูแลช้างอย่างยั่งยืน

นายฉัตรณรงค์ เมืองวงษ์ ผู้จัดการแคมเปญสัตว์ป่า จากองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประกาศเจตนารมณ์ ขอยืนหยัดเคียงข้างช้างไทย และปางช้างที่เป็นมิตรต่อช้าง ตลอดจนปางช้างทั่วไปที่มีความมุ่งมั่นในการปรับเปลี่ยน และพัฒนาสวัสดิภาพช้าง ผ่านโครงการความร่วมมือต่างๆ โดยล่าสุดองค์กรฯ เปิดรับสมัครปางช้างทุกแห่ง ที่มีความมุ่งมั่นจะพัฒนาสวัสดิภาพช้าง ให้สูงยิ่งขึ้น เพื่อเป็นต้นแบบ สำหรับพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของช้าง โดยการให้เงินทุน ผ่าน “โครงการพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของช้าง” (Build Back Better for Elephants) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสวัสดิภาพช้างไทย พร้อมรณรงค์ให้ภาครัฐและประชาชนทั่วไป เห็นความสำคัญของสวัสดิภาพช้าง ตลอดจนหยุดสนับสนุนกิจกรรมท่องเที่ยว ที่ทำร้ายช้าง
นายฉัตรณรงค์ กล่าวว่า “ประเทศไทยจัดเป็นศูนย์กลาง ในการใช้ช้างในธุรกิจท่องเที่ยว และความบันเทิง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมานานหลายปี ซึ่งปัจจุบัน มีช้างไทยกว่า 3,000 ตัวที่ถูกนำมาใช้งานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ช้างเหล่านี้จะถูกฝึกตั้งแต่ยังเล็ก ช้างเด็กจะถูกพรากจากแม่ตั้งแต่ยังเล็ก ถูกกักขัง เฆี่ยนตี ล่ามโซ่ ให้เชื่อฟังคำสั่ง ก่อนจะถูกส่งไปใช้งานตามปางช้างต่างๆ ผ่านกิจกรรมแสดงโชว์ ให้นักท่องเที่ยวขี่ อาบน้ำ ฯลฯ โดยที่ช้างเหล่านี้ไม่ได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิต และแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ ในขณะที่กระแสการท่องเที่ยววิถีใหม่ อย่างรับผิดชอบและยั่งยืนแบบไม่ทำร้ายช้าง คือทางออกและโอกาสของธุรกิจการ ท่องเที่ยวทั่วโลกในอนาคต”
“ทั้งนี้องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก จึงขอประกาศเจตนารมณ์ว่า เราจะยืนหยัดเคียงข้างช้างไทย และปางช้างที่เป็นมิตรต่อช้าง ตลอดจนปางช้างทั่วไปที่มีความมุ่งมั่น ในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาสวัสดิภาพช้าง ผ่านโครงการความร่วมมือต่างๆ อีกมากมาย รวมถึงการรณรงค์กับภาครัฐและประชาชนทั่วไปให้เห็นความสำคัญ ของสวัสดิภาพช้างมากยิ่งขึ้น ตลอดจนหยุดสนับสนุนกิจกรรมท่องเที่ยวที่เป็นการทำร้ายช้าง”
“ที่ผ่านมาองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก World Animal Protection ยืนหยัดเคียงข้างช้างไทย โดยมุ่งมั่นในการปรับเปลี่ยน และพัฒนาสวัสดิภาพช้าง ตลอดมาผ่านการสนับสนุนให้เงินช่วยเหลือฉุกเฉิน “ปางช้างที่เป็นมิตรต่อช้าง” ทุกเดือน ตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิด-19 ปีพ.ศ.2563 จนถึงปัจจุบัน เป็นจำนวน 9 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด เพื่อให้ปางช้างสามารถอยู่รอด และพัฒนามาตรฐานสวัสดิภาพเข้มแข็งขึ้นได้แม้ในภาวะยากลำบาก ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดูแลช้างและควาญช้าง อาทิ ค่าอาหารช้าง ค่ารักษาพยาบาลช้าง เงินเดือนควาญช้าง เป็นต้น รวมงบประมาณกว่า 20 ล้านบาทต่อปี”
ทั้งนี้องค์กรฯ ได้มุ่งมั่นที่จะยกระดับการพัฒนา สวัสดิภาพช้างให้สูงขึ้นอีก โดยร่วมมือกับปางช้างทุกแห่ง ที่มีความมุ่งมั่นจะปรับเปลี่ยน และพัฒนาสวัสดิภาพช้างให้สูงยิ่งขึ้นอีก 4 ปางช้าง ด้วยการให้เงินทุนผ่าน “โครงการพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของช้าง” (Build Back Better for Elephants) ใช้งบประมาณรวมกว่า 2 ล้านบาท ดังนี้
1.การติดตั้งระบบน้ำบาดาล และการปลูกกล้วย ณ Sappraiwan Elephant Resort & Sanctuary จ.พิษณุโลก (พฤศจิกายน 2564 – พฤษภาคม 2565)
2.การปลูกกล้วย อ้อย และหญ้าเนเปียร์ ณ Elephant Peace Project จ.เชียงราย (พฤศจิกายน 2564 – พฤษภาคม 2565)
3.การทดลองเปลี่ยนโซ่ผูกช้าง เป็นวัสดุสังเคราะห์น้ำหนักเบา ณ Somboon Legacy Foundation จ.กาญจนบุรี (กันยายน 2565 – ปัจจุบัน)
4.การก่อสร้างที่อยู่สำหรับช้างชรา เพื่อช่วยเหลือช้างเพิ่ม ณ BEES – Burm and Emily’s Elephant Sanctuary (ธันวาคม 2565 – ปัจจุบัน)
สำหรับ ‘โครงการพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของช้าง’ (Build Back Better for Elephants) ประจำปี 2566 นี้กำลังจะเปิดรับผู้สมัครเร็วๆนี้ โดยปางช้างทุกแห่งที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียด ได้จากเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดีย ขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของงานได้ที่ www.worldanimalprotection.or.th