AROUND THAILAND

‘เตรียมพัฒน์ฯ’ แจงปม ‘หยก’ โพสต์ถูกไล่ออก ยันไม่เคยปฏิเสธรับเข้าเรียน

และได้รับเข้าเรียนไว้ก่อนเพื่อรักษาสิทธิตามที่แม่ได้ยื่นบันทึกขอเลื่อนการมอบตัว แต่ในภายหลังจากได้รับการปล่อยตัว และเข้าเรียนแล้วแม่ไม่ได้พามามอบตัวตามกำหนด

จากกรณีที่ “หยก” เยาวชนอายุ 15 ปี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าถูกไล่ออกจากโรงเรียน ล่าสุดวานนี้ (14 มิ.ย.66) นายปรีชา จิตรสิงห์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ลงนามในประกาศ โดยระบุว่า

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามสื่อต่าง ๆ และช่องทางโซเชียลมีเดียนั้น คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ชมรมครูเก่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เครือข่ายผู้ ปกครองโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และสภานักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ขอแถลงการณ์ ดังนี้

1.หยก สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2565 ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมาย วันที่ 1 เมษายน 2566 มารดาของหยก ได้มาบันทึกขอเลื่อนการมอบตัวเพื่อศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ต่อมาวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 โรงเรียนได้รับรายงานตัวหยกไว้ก่อน เพื่อรักษาสิทธิ์ในการศึกษาต่อ (หลังจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนหญิงบ้านปรานี จังหวัดนครปฐม ได้ปล่อยตัว ในคดีมาตรา 112) ซึ่งในการรายงานตัวดังกล่าวไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการมอบตัวตามประกาศการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2566 ที่กำหนดให้นักเรียนต้องมามอบตัวที่โรงเรียนพร้อมกับผู้ปกครอง (มารดา) ในวันที่ 2 เมษายน 2566 ซึ่งโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนเข้าเรียนก่อน และเน้นย้ำให้นำผู้ปกครอง (มารดา) มามอบตัวนักเรียนให้สมบูรณ์ภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่โรงเรียนจะต้องยืนยันข้อมูลจำนวนนักเรียนในระบบ DMC ของกระทรวงศึกษาธิการ แต่นักเรียนไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว ทำให้ไม่มีฐานข้อมูลในระบบ จึงไม่ได้เป็นนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ในปีการศึกษา

2.หลังจากที่หยก เข้าเรียนในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 โรงเรียนได้ชี้แจงให้นักเรียนรับทราบระเบียบแนวปฏิบัติตามคู่มือนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ปีการศึกษา 2566 ที่ผ่านการประชาพิจารณ์โดยภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และนักเรียนทุกคนได้ปฏิบัติตามระเบียบนี้ แต่หยก ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เช่น ไม่แต่งกายชุดนักเรียน การทำสีผม การมาเรียนตามเวลา/รายวิซา ตามความพอใจของนักเรียน รวมทั้งขอไม่เข้าร่วมกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมหน้าเสาธง และกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการไม่ยอมรับกฎระเบียบและไม่เข้าสู่กระบวนการของโรงเรียน

3.โรงเรียนขอเน้นย้ำให้ทราบว่า ไม่เคยปฏิเสธการรับนักเรียนเข้าเรียนและได้ให้การดูแลตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ถึง แม้นักเรียนไม่ได้ให้ความร่วมมือในการปรับปรุงพฤติกรรม ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat