AROUND THAILAND

นายกเทศมนตรีแม่สาย ย้ำ ยังไม่อยากให้กลับเข้าบ้านหลังน้ำลด เหตุ น้ำยังเชี่ยวแรง พนังแตก ต้องเฝ้าระวังท่วมซ้ำ

วันนี้ (14 ก.ย. 67) นายชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย ให้สัมภาษณ์กับ The Reporters ถึงการทำความสะอาดพื้นที่น้ำท่วมบริเวณด่านพรมแดนแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า ถนนเส้นอื่น ๆ หรือเหมืองแดง น้ำจากพนังแตกยังหลากอยู่ เราเลยยังไม่อยากทำความสะอาด ซึ่งมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเราขอเคลียร์ขยะเป็นก่อนอันดับแรก แต่เรื่องการล้างยังไม่แน่ใจว่าจะล้างสำเร็จหรือไม่ สำหรับขยะทั้งหมดจะนำไปทิ้งที่บ่อขยะของเทศบาลแม่สาย ซึ่งเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเราได้ขอให้ขยายบ่อ เพราะเจอน้ำท่วมบ่อย บ่อเราเต็มเร็วมาก

นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย กล่าวต่อว่า ขณะนี้หน้าฝนยังไม่หมด จึงบอกชาวบ้านว่าอย่าเพิ่งกลับไปบ้าน ให้อยู่ในศูนย์พักพิงของเทศบาลก่อน ซึ่งรับคนได้ประมาณ 500 – 700 คน และมีการเปิดเพิ่มเรื่อย ๆ เพราะในชุมชนเองก็ไม่อยากไปไกลจากชุมชน จึงเกิดตามพื้นที่โรงเรียน วัด และหอประชุมของหมู่บ้าน โดยเรามีการกระจายของไปยังแต่ละหมู่บ้านด้วย

สำหรับสถานการณ์ภาพรวมขณะนี้ ถือว่าน้ำลดลง แต่มวลน้ำที่มาจากต้นแม่น้ำสาย ยังถือว่ามาเร็ว และเชี่ยวมากอยู่ โดยสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย แม้จะเลยจุดวิกฤตมาเยอะแล้ว เราไม่สามารถป้องกันพนังได้ เพราะของเทศบาลพังหมด รวมถึงของประชาชนด้วย พร้อมย้ำว่า ไม่อยากให้ประชาชนกลับเข้าไปอยู่ในบ้าน เพราะปริมาณน้ำในแม่น้ำสาย ขณะนี้ ยังคงเยอะอยู่เมื่อวานนี้ลดลงมาเพียง 1 เมตร ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำไม่ต่ำกว่า 2 เมตรกว่า

นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย กล่าวต่อว่า จุดที่ยังวิกฤตอยู่ในขณะนี้ยังมีอีกเยอะ เนื่องจาก 4 ชุมชน ทั้งตลาดสายลมจอย เกาะทราย ไม้ลุงขน เหมืองแดง น้ำจะเข้าไปรวมที่ตลาดไม้ลุงขน และจะไปออกที่เขาควาย ดังนั้น มวลน้ำยังแรงมากอยู่ ซึ่งเราระดมการอพยพไปที่นั่น และตอนนี้ยังไม่มีจุดไหนที่ปลอดภัย เพราะถ้าเกิดมีพายุมาอีก เราจะเข้าไปในพื้นที่ไม่ได้แล้ว และจะไปส่งอาหารลำบาก 2 วันที่ผ่านมา จึงมีการเร่งอพยพคนให้ได้มากที่สุด และปิดการอพยพไปแล้วเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 18:30 น. ส่วนคนที่สมัครใจอยู่ เราก็ตุนเสบียงให้ เพราะบางคนเป็นตัวแทนชุมชนเพื่อเฝ้าในบริเวณบ้าน เพราะยังคงมีการเกิดเหตุลักขโมยอีกเยอะ

ขณะนี้ปัญหาเรื่องคนยังไม่ได้ได้กินข้าว ยังมี แต่มีน้อย เพราะใช้เจ็ตสกี หน่วยจู่โจม เข้าไปตรวจสอบ แต่เทศบาลมีกำลังแค่รถหกล้อ 2 คัน ก็ไปทำในส่วนที่เราทำได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง

ส่วนข้อเสนอที่ยื่นให้กับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ คือการอยากให้เร่งช่วยซ่อมกำแพง เพราะ ศักยภาพของเรา เงินของเทศบาลไปลงตามชุมชน ซึ่งพนังกั้นน้ำ 1.7 กิโลเมตร และ 600 เมตร ต้องการออกแบบจากกรมโยธา จะต้องนำเจ้าหน้าที่ส่วนกลางมาช่วย รวมถึงอยากให้คุยกับทางเมียนมา เพราะต่างฝ่ายต่างรุกล้ำพื้นที่น้ำ เมื่อก่อนแม่น้ำสายกว้าง 70 – 80 เมตร ตอนนี้ในบางจุดเหลือไม่ถึง 20 เมตร ดังนั้น จึงกลายเป็นพื้นที่คอขวด ปริมาณน้ำยกระดับขึ้น และทำให้มีปัญหาแบบนี้ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ อยากขอเยียวยาชดเชยเวนคืน ย้ายประชากรตรงนี้ ไปอยู่ที่ที่ปลอดภัย และทำพนังของรัฐบาลที่ปลอดภัยแบบเมืองนอก เพื่อให้มีการระบายน้ำที่ดีกว่านี้

ตอนแรกเราประเมินว่าเราจะกู้พนัง แต่ปรากฏว่า เรากู้ไม่ได้ เพราะมีจำนวนเยอะมาก อย่างพนังกั้นน้ำของเทศบาลที่แตกเป็นเพราะมีท่อนซุงประมาณ 20 เมตรมากระแทก และน้ำเชี่ยวมาก จึงไม่มีศักยภาพในการไปกู้พื้นที่ตรงนั้นคืน

“แทบจะว่าเป็นการรับสภาพ เพราะว่าน้ำมา เขาก็เดือดร้อน แต่ถ้าเรามีพนังจริง ๆ ที่ป้องกัน ที่ทำให้เรานอนหลับสบายก็จะดีกว่า” นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย กล่าว

นายชัยยนต์ กล่าวถึงกระแสข่าวเขื่อนแตก ว่า เป็นพนังดินที่สะพานสอง ซึ่งมีพนังดินอีกชั้นกั้นอยู่ ตอนนี้เราได้ทำการซ่อมเรียบร้อยแล้ว ส่วนกระแสว่าเขื่อนในเมียนมาแตกนั้น เป็นระบบการทำเหมืองที่จะนำน้ำไปฉีดแร่ และมีบ่อ หรือทะเลสาบเล็ก ๆ ไว้ซึ่งไม่เป็นอันตราย

Related Posts

Send this to a friend