คนเลี้ยงควายร้องรัฐ เร่งช่วย “ควายน้ำทะเลน้อย” หลังลอยตาย
ที่ทะเลสาบน้ำจืดทะเลน้อย ในพื้นที่ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พบซากควายลอยตายจำนวนมาก บางตัวเน่าจนจนแทบไม่เหลือซาก บางตัวยังเหลือซากให้เห็นว่า มีสภาพซูบผอมจากการขาดอาหาร โดยควายที่ตาย เจ้าของไม่ได้ขนย้ายซากไปทำลายเนื่องจากบางตัวจมน้ำสูญหายไป กว่าจะพบซาก ก็เน่าเปื่อยจนยากที่จะนำออกไปทำลายได้
เกษตรกรผู้เลี้ยงควายในพื้นที่หมู่ 1 ต.ทะเลน้อย เปิดเผยว่า ตนเลี้ยงควายไว้ 150 ตัว ล่าสุดตายไปแล้ว 50 ตัว เพราะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก หลังพื้นที่ถูกน้ำท่วมขังต่อเนื่องถึง 3 รอบ กินระยะต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลให้แปลงหญ้าเน่าเปื่อย มีวัชพืชจำพวกจอกแหนปกคลุมผืนน้ำเป็นจำนวนมาก เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของหญ้าใต้น้ำ ทำให้ควายน้ำขาดแคลนอาหารจนล้มตาย
เกษตรกรหลายคนพยายามแก้ปัญหาด้วยการเช่าที่นารกร้าง เพื่อนำควายที่ยังเหลือไปเล็มหญ้า แม้จะมีหญ้าไม่ค่อยสมบูรณ์แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้อดตาย แต่ก็ไม่รู้จะสามารถแบกรับต้นทุนค่าเช่าที่ได้นานแค่ไหน เพราะกว่าจะเลิกเช่าที่ได้ ต้องรอระดับน้ำลด และมีหญ้างอกขึ้นมาเพียงพอให้ควายได้ออกเล็ม โดยช่วงที่ผ่านมา เกษตรกรบางคนต้องจ่ายค่าเช่าที่ไปแล้วไม่น้อยกว่า 2 หมื่นบาท เบื้องต้นอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือด้านอาหารควาย หรืออาจนำมาจำหน่ายในราคาถูก โดยเฉพาะอัดฟ่อนที่ปัจจุบันเกษตรกรต้องซื้อในราคาฟ่อนละ 75 บาท
ทุ่งหญ้าป่าพรุในพื้นที่ ต.ทะเลน้อย ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ต.บ้านขาว อ.ระโนด จ.สงขลา และ ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยพัทลุง มีการเลี้ยงควายปล่อยทุ่ง หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “ควายน้ำ” เพราะชอบดำน้ำกินหญ้าในช่วงน้ำหลาก เดิมทีมีกว่า 3,000 ตัว รอบพื้นที่ป่าพรุ เจ้าของบางรายต้อนควายกลับคอก ขณะที่บางรายปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติ ทำให้ช่วงวันหยุด บริเวณสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เชื่อมต่อจังหวัดพัทลุงและสงขลา มักเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่พาครอบครัวมาดูวิถีชีวิตควายน้ำทะเลน้อย ชมฝูงควายน้ำหากินด้วยการมุดน้ำเล็มหญ้า อาศัยอยู่ในน้ำเป็นหลัก แต่หากพื้นที่ถูกน้ำท่วมหนักจนระดับน้ำในทะเลสาบสูงขึ้น ควายน้ำเหล่านี้ก็ไม่สามารถอยู่ได้ เพราะหากแช่อยู่ในน้ำนานเกินไปจะเจ็บป่วย












