AROUND THAILAND

ผู้ว่าฯ เชียงราย ติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ผู้ว่าฯ เชียงราย ติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม คาด น้ำไหลเข้าพื้นที่ ต.ศรีเมืองชุม – ต.เกาะช้าง ช่วงเช้า ย้ำทุกภาคส่วนเร่งช่วยเหลือให้ครบทุกครัวเรือน พร้อมแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยง อ.แม่สาย เฝ้าระวังมวลน้ำต่อเนื่อง ลดผลกระทบที่เกิดขึ้น

วันนี้ (11 ก.ย. 67) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีมวลน้ำไหลเชี่ยวแรง ทำให้รถใหญ่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ได้ คาดว่ามวลน้ำจะไหลเข้าพื้นที่ ต.ศรีเมืองชุม และ ต.เกาะช้าง ในช่วงเช้า และจะมีมวลน้ำจากเขต อ.แม่ฟ้าหลวง ไหลลงสู่พื้นที่ ต.โป่งผา และ ต.โป่งงาม ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมความพร้อมรับมวลน้ำ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น

นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า จากอิทธิพลของพายุ “ยางิ” ในวันที่ 9-10 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ อ.แม่สาย และ อ.เชียงของ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม และน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งล่าสุด จ.เชียงราย มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ต.เวียงพางคำ และ ต.แม่สาย อ.แม่สาย และ ต.สถาน อ.เชียงของ

สำหร้บการให้ความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ได้นำประชาชนส่วนหนึ่งออกจากพื้นที่ประสบภัยไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ เทศบาลตำบลแม่สาย จำนวน 34 ราย และที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ วัดพรหมวิหาร จำนวน 37 ราย รวมทั้งหมด 71 ราย ในส่วนของแผนต่อไป หน่วยงาน และอาสาสมัคร อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมเรือยางจากภาคส่วนต่าง ๆ เข้าให้ความช่วยเหลือให้ครบทุกครัวเรือน

นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สาย และองค์กรปกครองท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน เร่งสำรวจความเสียหายเป็นการเร่งด่วน และแจ้งให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและอาศัยอยู่ในจุดปลอดภัย นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ เทศบาลตำบลแม่สาย ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายให้ความช่วยเหลือในด้านการดูแลอาหาร และน้ำดื่มสะอาดให้กับผู้ประสบอุทกภัย

“ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง ซึ่งอาจมีฝนตกหนักทำให้เกิดมวลน้ำระลอกใหม่ โดยเตรียมพร้อมในเรื่องการแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมทั้งเครื่องมือในการอพยพไปยังที่ปลอดภัย พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์อุทกภัย ตลอดจนการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด จนกว่าเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้รู้เท่าทันเหตุการณ์อย่างทันท่วงที” นายพุฒิพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากเหตุภัยพิบัติ หรือต้องการขอรับความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนนิรภัย 1784 หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือประสานงานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัดอำเภอประจำตำบล นายอำเภอ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat