ปชช.ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านช่องบก เตรียมพร้อมอพยพ
แสดงจุดยืนไม่อยากเห็นสงคราม แต่สนับสนุนทหารให้รักษาอธิปไตย อยากเห็นการหาทางออกอย่างสันติ
วันนี้ (7 มิ.ย. 68) The Reporters ลงพื้นที่ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีหลายหมู่บ้านอยู่ติดชายแดนและจะได้รับผลกระทบหากมีสถานการณ์การสู้รบ
ทางขึ้นช่องบก หรือสามเหลี่ยมมรกต จุดที่เกิดการปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ปิดไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 68 มีการปิดด่านตรวจทางขึ้น ให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารและผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากด้านบนมีฐานของทหารไทยประจำการ และเป็นจุดที่ทหารกัมพูชารุกล้ำพื้นที่เข้ามาในดินแดนของไทย
ส่วนชาวบ้านในหมู่บ้านโนนสูง บ้านแปดอุ้ม ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน ที่อยู่ติดพื้นที่ช่องบก เริ่มเตรียมสิ่งของเตรียมพร้อมตามแผนอพยพ อย่างที่ รร.บ้านแปดอุ้ม ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ช่วยกันบรรจุถุงกระสอบทราย เพื่อซ่อมแซมบังเกอร์ ให้เด็กนักเรียนไว้หลบภัย ซึ่งมีบังเกอร์ที่เคยทำไว้ตั้งแต่สงครามเขาพระวิหาร เมื่อปี 2554 และบางบังเกอร์มีมาตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนามปี 2528 จึงต้องนำมาปรับปรุงใหม่ อย่างท่อซีเมนต์ที่เคยอยู่ใต้ดิน เมื่อไม่ได้มาใช้งานก็นำมาทำเป็นเครื่องเด็กเล่น เมื่อมีสถานการณ์ ก็ต้องนำมาทำบังเกอร์ใหม่
ชาวบ้านที่นี่ ถ้าอายุ 50 ปีขึ้นไป จะมีประสบการณ์สงคราม ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง เพราะสมรภูมิช่องบก เคยมีสงครามมาแล้ว ทำให้ชาวบ้านคุ้นเคยกับการอพยพ แต่ด้วยประสบการณ์ที่เลวร้าย บางคนเคยอพยพไปฝั่งกัมพูชา ก็ไม่อยากให้เกิดสงครามอีก และสถานการณ์ครั้งนี้ต่างกัน เพราะจะเป็นสงครามระหว่างไทยและกัมพูชา ชาวบ้านจึงไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่เข้าใจดีว่าไทยต้องรักษาอธิปไตยไว้ให้ได้ จึงพร้อมรับมือกับสถานการณ์
ขณะที่ชีวิตความเป็นอยู่ยังเป็นปกติ ยังไม่มีการอพยพจริง ชาวบ้านยังใช้ชีวิตทำไร่ ทำสวน ซึ่งกำลังมีผลผลิต และเตรียมทำตามแผนอพยพของทางการ มีการกำหนดจุดอพยพ เส้นทาง และการจัดการดูแลพื้นที่ไว้พร้อมแล้ว โดยทาง อบต.โดมประดิษฐ์ ได้เตรียมพร้อมสถานที่ รวมถึงเป็นจุดในการรับของบริจาคต่างๆที่คนไทยส่งมาให้กำลังใจทหารแนวหน้าด้วย