AROUND THAILAND

กรมอุทยานฯ แจงการเคลื่อนย้ายผู้บุกรุกพื้นที่ อช.แก่งกระจาน ตามหมายศาล ยืนยันดำเนินการโดยละมุนละม่อม ไม่ใช้ความรุนแรง

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. พ.ศ. 2564 เวลา 18.30 น. นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรัฏฐ์ โรจน์บวรวิทยา ผกก.สภ.แก่งกระจาน และนายชาตรี วชิระเผด็จศึก ผอ.ทสจ.เพชรบุรี ร่วมแถลงข่าวสรุปภารกิจเคลื่อนย้ายผู้บุกรุกพื้นที่แก่งกระจานตามหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ 44/2564 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2564 ณ ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า ในปฏิบัติการครั้งนี้ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายในการแก้ไขปัญหา บ้านโป่งลึก-บางกลอย สร้างความเข้าใจหลัก เน้นการพัฒนา ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยก่อนหน้านี้ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ร่วมกับหลายหน่วยงานเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาบ้านโป่งลึก–บางกลอย โดยตลอด ทั้งในส่วนการจัดที่ดิน การพัฒนาสาธารณูปโภค และการพัฒนาแก้ไขปัญหาที่ดิน อีกทั้งในขณะนี้ ทางกรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เข้าร่วมกับชุมชนพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติม

กรมอุทยานแห่งชาติฯ ต้องการแก้ไขปัญหา รูปแบบการทำเกษตรลักษณะของการปลูกพืชหมุนเวียน ทำไร่หมุนเวียนแบบเดิม ซึ่งจะต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก โดยพื้นที่บริเวณนี้ เป็นพื้นที่ต้นน้ำสำคัญของคนจังหวัดเพชรบุรี และต้องหันหน้าพูดคุยกัน ในสิ่งไหนที่ราษฎรมีความเดือดร้อนเราก็จะเร่งรัดดำเนินการแก้ไขให้

จากการสำรวจตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 รวมทั้งมติ ครม. 30 มิถุนายน 2541 พบว่าจากการสำรวจไว้แต่เดิม มีการขยายพื้นที่ทำกิน สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีราษฎรบางกลุ่มไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่อยู่ในพื้นที่ หมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย เข้าไปบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ทำการเกษตร ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 157 ไร่ โดยล่าล่าสุดนี้ พบการบุกรุกเพิ่มขึ้น 1 แปลง จึงมีแนวโน้มถึงการจะบุกรุกเพิ่มอีก

กระทั่งในวันที่ 5 มี.ค. 64 ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มชาติพันธุ์ ในพื้นที่บางกลอย จ.เพชรบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานฯ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ จำนวน 30 แปลง พบชาวบ้านในพื้นที่จำนวน 39 ราย แต่ในวันนี้พบชาวบ้านทั้งหมด 87 ราย ซึ่งมีผู้ที่อยู่ในหมายศาล 22 ราย และที่เหลือไม่อยู่ในหมายศาล ซึ่งอยู่ในฐานความผิดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่อุทยานมาตรา 20 ดำเนินการเปรียบเทียบปรับทั้งหมด 28 ราย ส่วนเด็ก 37 ราย ไม่ได้ดำเนินคดี เนื่องจากเป็นเด็กติดตามพ่อแม่ไปคงไม่มีเจตนาในการเข้าไปบุกรุกแผ้วถาง โดยมีผู้ใหญ่บ้านบ้านบางกลอย และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมารับตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำส่งไปที่บ้านบางกลอยเรียบร้อยแล้ว

ปฏิบัติการนี้มีหน่วยงานเข้าร่วม ในขั้นตอนของการตรวจสุขภาพ จากโรงพยาบาลแก่งกระจาน พบว่าเด็กที่ขึ้นไปมีไข้ และไม่สบายต้องได้รับการรักษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ ที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย มีระบบสาธารณสุขในการดูแลสุขภาพที่ดี ส่วนพื้นที่ที่เข้าไปบุกรุก ห่างจากพื้นที่ ที่จัดสรรให้ โดยต้องใช้เวลาเดินเท้าถึง 3 วัน ในทุกขั้นตอนขอยืนยันว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ และหน่วยงานที่ร่วมกันปฏิบัติการในครั้งนี้ ปฏิบัติอย่างดีและคำนึงถึงความปลอดภัยไม่มีการใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด

ด้านผู้กำกับ สภ.แก่งกระจาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสภ.แก่งกระจาน รับผิดชอบในเรื่องของงานสอบสวน หลังจากที่รับตัวผู้ต้องหาตามหมายศาลจำนวน 22 คน โดย 20 คนแรก เป็น 20 คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ คืออยู่ในพื้นที่บุกรุก ส่วนอีก 1 คน เราได้จับกุมจากมวลชนที่มาชุมนุมอยู่ที่หน้าอุทยาน และอีก 1 คน จับกุมได้จากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ซึ่งผู้ต้องหาล่องแพมาจากแม่น้ำด้านบน ในส่วนของการสอบสวนวันนี้ ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นทั้งหมด 22 คน โดยระหว่างการสอบสวนมีทนายความ และล่ามมาร่วมในการสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นชาวกะเหรี่ยง อาจไม่เข้าใจภาษาไทย ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนเสร็จสิ้น และยื่นฝากขังไปที่ศาลจังหวัดเพชรบุรีทั้งหมด 22 คน โดยนำตัวไปส่งเรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรี

Related Posts

Send this to a friend