คนเลี้ยงหมูขอบคุณนายกฯ เข้าใจกลไกตลาด แนะอย่ามองข้ามภาษีวัตถุดิบ
วันนี้ (4 ม.ค.65) นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและผู้บริโภค และมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ว่า ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด เมื่อปริมาณสินค้ามีน้อย สวนทางกับความต้องการบริโภคที่มากขึ้น ราคาย่อมปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดูแลแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ทั้งภาระของเกษตรกรผู้เลี้ยง พ่อค้าคนกลาง เขียงหมู ผู้บริโภค และผู้ประกอบการร้านอาหาร เพื่อลดผลกระทบทั้งระบบ โดยไม่ให้เสียกลไกตลาด ในส่วนของเกษตรกรผู้เลี้ยง นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้คณะกรรมการ Pig Board เร่งหาแนวทางช่วยเหลือ ทั้งด้านต้นทุนการผลิต การพัฒนาวัคซีน และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้มีผู้เลี้ยงในระบบเพิ่มขึ้น
นายสิทธิพันธ์ ระบุว่าการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคในหมู ควรเปิดกว้างให้สถาบันการศึกษา หรือภาคเอกชนที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมพัฒนา เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ส่วนการสนับสนุนสินเชื่อแก่เกษตรกร ภาครัฐควรพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องควบคู่ไปด้วย ทั้งด้านสวัสดิการของเกษตรกร สินค้าเกษตร และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ
นายสิทธิพันธ์ เห็นว่า รัฐควรลดอัตราภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองจาก 2% เหลือ 0% ด้วย เนื่องจากประเทศไทยต้องนำเข้ากากถั่วเหลืองสำหรับเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ หากลดอัตราภาษีนำเข้า ก็จะช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงหมูได้อีกทางหนึ่ง เนื่องราคาสุกรและเนื้อสุกรที่ปรับขึ้นในปัจจุบัน มีสาเหตุมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ และค่าบริหารจัดการป้องกันโรค
