AROUND THAILAND

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ เผยน้ำใน อ.เมืองลดลงต่อเนื่อง คาด 2-3 วัน กลับสู่สภาวะปกติ

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ เผยน้ำในอำเภอเมืองลดลงต่อเนื่อง เกือบ 40 ซม. คาด 2-3 วัน จะเปิดเส้นทางจราจร และกลับสู่สภาวะปกติ พร้อมสั่งการทุกอำเภอเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมหากฝนตกซ้ำ

วันนี้ (3 ต.ค. 65) นาย โสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดชัยภูมิ ภายหลังมีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณเทือกเขาภูแลนคา ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมในตะเข็บรอยต่อในอำเภอ ร่วมทั้งน้ำที่เอ่อล้นจากเขื่อนลำปะทาวหนุนสูง ส่งผลให้น้ำเข้าท่วมตัวเมืองอย่างฉับพลันในช่วงวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา

นายโสภณ ระบุว่า ในวันนี้ระดับน้ำในอำเภอเมือง ลดลงจากเมื่อวาน ประมาณ 40 เซนติเมตร รวมทั้งในบริเวณเขื่อนลำปะทาวระดับน้ำก็ค่อย ๆ ลดลงเรื่อยๆ เช่นกัน ซึ่งในพื้นที่เทศบาลเมืองชัยภูมิที่ได้รับผลกระทบกระทบจากน้ำท่วม ทำให้ต้องการปิดเส้นทางการจราจรในหลายเส้นทางไปก่อนหน้านี้ ก็ได้มีการพูดคุยกับทางนายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ คาดว่าอีก 2-3 วันระดับน้ำในตัวเมืองก็จะลด และสามารถเปิดการสัญจรได้ตามปกติ แต่อาจจะมีถนนลุ่มต่ำที่จะต้องเร่งสูบน้ำออก และต้องประเมินฝนที่จะตกลงมา หากไม่มีก็คาดว่าน่าจะกลับมาเป็นปกติได้ร้อยเปอร์เซ็น

รวมถึงได้เร่งระบายน้ำออกจากบริเวณห้วยลำน้ำเสียว โดยขณะนี้น้ำก็ลดไปประมาณ 20 เซนติเมตร ซึ่งการเร่งระบายน้ำในห้วยเสียวนั้น จะช่วยให้การระบายน้ำออกจากเทศบาลเมืองมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

นายโสภณ กล่าวต่อว่า ยังมีพื้นที่รอบนอกอีกหลายอำเภอที่ยังน่าเป็นห่วงอยู่ โดยเฉพาะ อ.หนองบัวแดง ที่น้ำจะลงจากบ้านเขว้า เข้าสู่บ้านค่ายที่เป็นจุดรับน้ำเยอะ ก่อนไหลลงลำน้ำชี ในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งตนเองจะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ดังกล่าวในวันนี้

สิ่งที่หน้ากังวลหลังจากนี้คือต้องประเมินสถานการณ์ และขอให้น้ำจากลำน้ำชีไม่หนุน ซึ่งน้ำในท่วมในครั้งนี้ระดับน้ำลดได้เร็วขึ้น ซึ่งหากน้ำจากลำน้ำชีไม่หนุน จะทำให้ทางจังหวัดชัยภูมิสามารถระบายน้ำได้เร็ว

นายโสภณ เปิดเผยว่า ภายหลังประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัย และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ได้มีการสั่งการให้ทุกอำเภอ ที่อาจจะมีน้ำเข้าท่วมให้เตรียมพร้อมรับมือ ทั้งศูนย์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ การตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และศูนย์ฟื้นฟูเมื่อระดับน้ำลงลด ก็จะมีการเข้าสำรวจพื้นที่ เพื่อประเมินความเสียหายทั้งหมด

จากการประมาณการเบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปจำนวนความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชนทั้งหมดได้ แต่ประมาณการณ์ความเสียหายบนพื้นที่การเกษตรอยู่ที่ 240,000 ไร่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งอาจจะต้องลงสำรวจอีกครั้งว่าได้รับความเสียหายหรือไม่ และจะมีการสำรวจทั้งภาคการเกษตร การประมง และบ้านเรือนที่อยู่อาศัยต่างๆ ซี่งทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องการช่วยเหลือประชาชน และได้เตรียมงบกลางไว้ให้เกือบทั้งประเทศ ในการแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์น้ำท่วม

ผู้สื่อข่าวถามถึงการถอดบทเรียนในการรับมือน้ำท่วม เนื่องจากจังหวัดชัยภูมิเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอยู่หลายครั้ง นายโสภณ ระบุว่า ทางจังหวัดได้มีการถอดบทเรียนมาเยอะพอสมควรแล้ว ซึ่งทางกรมชลประทานได้มีการทำฟลัดเวย์ของน้ำ เพื่อให้น้ำออกเลี่ยงเมือง ซึ่งโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ และการแก้ไขปัญหาระยะยาว เรื่องการสร้างอ่างกักเก็บน้ำในพื้นที่ต้นน้ำเพื่อใช้ในการรองรับน้ำ และกักเก็บน้ำในการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง

Related Posts

Send this to a friend