AROUND THAILAND

ผู้ว่าฯสระแก้ว ยัน รักษาอธิปไตย ขอคนไทยอย่าขัดแย้งกันเอง

ทำความเข้าใจสภาพพื้นที่ ‘บ้านหนองจาน’ไทย-กัมพูชา ผู้ว่าฯสระแก้ว ยันรักษาอธิปไตย ขอคนไทยอย่าขัดแย้งกันเอง

วันนี้ (26 ส.ค. 68) นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยกับ The Reporters กรณีให้สัมภาษณ์ในวันที่คณะผู้สังเกตการณ์ผู้ชั่วคราว IOT ว่าบ้านหนองจานไม่มีเอกสารสิทธิ์ เป็นการยืนยันเฉพาะจุดที่กัมพูชารุกล้ำดินแดนไทยเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงบ้านหนองจานทั้งหมด โดยอธิบายได้ตามแผนที่ (ตามภาพแผนที่ประกอบ) พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงของบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว

-ที่มาของสถานการณ์ที่ ‘บ้านหนองจาน’

เหตุการณ์สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ได้ผลักดันชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นครอบครัวทหารในพื้นที่บ้านหนองจาน 6 ครัวเรือน มีบ้านประมาณ 10 หลังคาเรือน ออกจากพื้นที่ เพราะรุกล้ำเข้ามาดินแดนไทย และพบการตั้งฐานทหาร ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยไทย และพื้นที่บริเวณนั้นเป็นดินแดนของไทย อยู่นอกเขตอ้างสิทธิ์ของกัมพูชา และยังเป็นการละเมิด MOU43 ซึ่งไทยอนุโลมให้กัมพูชามาสร้างบ้านเรือนกว่า 200 หลังคาเรือน ในพื้นที่ที่ยังไม่ปักปันเขตแดน เพราะบางครอบครัวอยู่ต่อเนื่องตั้งแต่ยุคที่ไทยเปิดบ้านหนองจานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กัมพูชาเป็นศูนย์อพยพจากสงครามตั้งแต่ปี 2520

เมื่อมีสถานการณ์สู้รบระหว่างไทยและกัมพูชา ทางกองกำลังบูรพาและกองทัพภาคที่ 1 ได้ดำเนินการตามแผนยุทธบดินทร์ ในการรักษาอธิปไตยไทย ผลักดันชาวกัมพูชา เฉพาะจุดที่รุกล้ำดินแดนไทย และไม่อยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ตาม MOU43 เท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้นทางทหารไทยได้ทำรั้วลวดหนามเพื่อเป็นแนวป้องกันภัย ป้องกันกัมพูชารุกล้ำเข้ามาอีก แต่ทางกัมพูชาให้ประชาชนในหมู่บ้านหนองจานฝั่งตรงข้ามมาประท้วง ยั่วยุและสร้างข่าวเท็จกล่าวหาไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง GBC 7 ส.ค.68

-บ้านหนองจานจุดที่กัมพูชารุกล้ำไม่มีโฉนดที่ดินแต่เป็นพื้นที่ป่าไม้

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว อธิบายตามแผนที่สามเหลี่ยมหมายเลข 2 เป็นพื้นที่ที่กัมพูชารุกล้ำมาในดินแดนไทย มีการสร้างบ้านกว่า 200 หลังคาเรือน พื้นที่ตรงนั้นไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีที่ทำกินของชาวบ้านแต่เดิม ตนจึงตอบว่าไม่มีเอกสารสิทธิ์ ไม่มีโฉนด ไม่มีเอกสารอื่น เพราะเป็นที่ป่า เป็น พื้นที่ป่าไม้ ตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 แต่ไม่ได้หมายความว่า หมู่บ้านหนองจานทั้งหมดไม่มีเอกสารสิทธิ์ เราตอบเฉพาะขอบเขตที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว IOT มาดูพื้นที่เท่านั้น

สำหรับพื้นที่บ้านหนองจาน ยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ในระหว่างการปักปันเขตแดน เนื่องจากอยู่ในแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขต 46-47 ซึ่งมีการสำรวจหลักเขตแล้ว แต่ทั้งสองฝ่ายยังอ้างสิทธิ์ โดยกัมพูชากำหนดเขตอ้างสิทธิ์ตามแนวเส้นสีแดง ส่วนไทยอ้างสิทธิ์ตามแนวเขตสีน้ำเงิน บริเวณหมายเลข 1 เรียกว่าเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ที่ต่างคนต่างอ้าง ส่วนพื้นที่ที่ 2 สีฟ้า เป็นเส้นที่กองกำลังบูรพาไปล้อมรั้วลวดหนามไม่ให้รุกล้ำพื้นที่ แต่เส้นเขตแดนไทยยังเป็นสีเหลือง การล้อมรั้วลวดหนามไม่ใช่การกำหนดเขตแดน

ส่วนพื้นที่สามเหลี่ยม หมายเลข 2 ยืนยันโดยเส้นเขตแดนว่าเป็นดินแดนไทย ส่วนจะเป็นที่ดินประเภทอะไรอีกเรื่องหนึ่ง แต่เมื่อเป็นพื้นที่ป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.2484 ไม่มีใครทำกินก่อน หากใครมาทำกินในพื้นที่หมายเลข 2 ถือว่าผิดกฏหมาย ถ้าไม่ใช่คนไทย เป็นการบุกรุกแผ้วถาง ทางจังหวัดได้หารืออัยการว่าจะดำเนินคดีกับต่างชาติในหมายเลข 2 ราจะได้ที่แปลงนี้กลับคืนมากับไทย โดยใช้ กม.ป่าไม้ 2484 ซึ่งพื้นที่กรอบสีแดงมี 64 ไร่ ในกรอบสีเหลืองมี 99 ไร่ เราสามารถดำเนินคดีตามกฏหมายป่าไม้เอาผิดชาวกัมพูชาที่รุกล้ำดินแดนไทยได้

ส่วนพื้นที่ในหมายเลข 3 ได้เชิญประชาชนที่มีใบจอง สค.1 เอกสารบำรุงท้องที่ 5 ให้มาแจ้งผ่านสำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว ดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์ เพราะอยู่ในประเทศไทย โดยผู้ที่มี นส.3 ได้ทำหนังสือถึงกรมที่ดินเพื่อดำเนินการออกโฉนดได้เลย

“เราควรจะช่วยกันเป็นกำลังต่อสู้กับเขา ประเทศไทยได้เดินทางมาถึงการใช้ความจริง ข้อเท็จจริงและหลักกฏหมายสู้กับกัมพูชา ถ้าเรามาสู้กันเอง เป็นเรื่องไม่ดี เขาจะไปสร้างเฟคนิวส์ แตกแยก ทำให้พลังการต่อสู้คนไทยลดน้อยลงไป ขอให้ใช้เหตุผล ข้อเท็จจริกฏหมายรวมพลังสู้กับเพื่อน้านที่คิดไม่ดีกับเรา” ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวย้ำ

รายงาน : ฐปณีย์ เอียดศรีไชย

Related Posts

Send this to a friend