‘ธนกร’ เชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ วางมือการเมือง หลังพ่ายศึกเลือกตั้ง 66
‘ธนกร’ เชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ วางมือการเมือง หลังพ่ายศึกเลือกตั้ง 66 พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่ไม่ปิดประตูจับขั้วตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองเสียงข้างมาก
วันนี้ (15 พ.ค. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวขอบคุณคะแนนเสียงจากประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่ให้ความไว้วางใจเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมขอบคุณทุกคะแนนเสียง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งถือว่าคะแนนเป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช
ที่คะแนนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อสูงที่สุด
ส่วนขณะนี้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้าง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ถึงแนวทางทางการเมืองหลังเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค. 66) ได้มีการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ตนเองมองว่าเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลต้องปล่อยให้พรรคที่มีคะแนนสูงสุดเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ในส่วนของพรรค รทสช.ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ซึ่งตนเข้ามาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติก็เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะฉะนั้นหาก พล.อ.ประยุทธ์ว่าอย่างไรตนเองก็ว่าอย่างนั้น พร้อมยืนยันสามารถพูดคุยกับคนในพรรคได้ทุกคน โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเราทำงานร่วมกันมานานพอสมควร ทุกคนในพรรค เป็นคนให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นท่านตัดสินใจอย่างไร ก็อยู่ที่ตัว ท่าน และยังเห็นใจ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ 8 ปี ไม่เคยได้ไปไหนเลย ไม่ได้มีเวลาส่วนตัวเลย
ทั้งนี้นายธนกรยังกล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยังคงทำหน้าที่ต่อไปในฐานะรัฐบาลรักษาการณ์โดยจะต้องทำงานให้เต็มที่ โดยจากไทม์ไลน์เหลือระยะเวลาอีก 3 เดือน ช่วงรักษาก็ทำหน้าที่ ทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันไม่ได้รู้สึกเสียใจ การเมืองมีแพ้มีชนะ และต้องขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และทุกพรรคที่ได้คะแนนความไว้วางใจจากประชาชน ซึ่งจะต้องจับตาว่าแต่ละพรรคจะมีวิธีการจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร
ส่วนจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ ตนเองไม่ขอคาดเดา แต่คิดว่านักการเมืองทุกคนมีสปิริตทางการเมือง จึงต้องให้พรรคที่ได้อันดับหนึ่ง เป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาลก่อน หากอันดับที่หนึ่งจัดไม่ได้ จะต้องเป็นพรรคอันดับสองที่จะจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตนเองพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ไม่ได้มีปัญหาอะไร เมื่อเราอาสามาทำงานอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้
ส่วนจะมีโอกาสไปรวมขั้วกับพรรคที่มีเสียงข้างมากหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่การเมืองเป็นไปได้หลายหน้า เพราะก็รู้จักกับนักการเมืองหลายพรรค ซึ่งในสนามการเลือกตั้งก็ว่ากันไปตามเกม แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวยังคงคุ้นเคยกันดี ส่วนจะปิดช่องเลยหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคว่าพอใจในสิ่งที่มีแล้วหรือไม่ แต่ส่วนตัวมีข้อกังวลและให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์
ทั้งนี้หากรวมไทยสร้างชาติไม่ได้เป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะทำงานการเมืองต่อหรือไม่ เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เปรย “แต่คิดว่าคงต้องพักแล้วละมั้งครับ” เพราะตนเองคิดว่าท่านก็ทำเพื่อประเทศชาติมาทั้งชีวิตแล้ว วันนี้ท่านก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติบ้านเมืองมานานกว่า 8 ปี ตนเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ก็ทำประโยชน์ให้ประเทศมากมาย ไม่มีเรื่องเสียหาย โดยเฉพาะเรื่องคอรัปชั่น จึงเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในใจของคนไทยอีกยาวนาน
นอกจากนี้ไม่ได้รู้สึกว่าพ่ายแพ้แล้วจะเป็นอะไร เพราะการเมืองก็เป็นแบบนี้ เราก็ทำหน้าที่อย่างอื่นในฐานะประชาชน เท่านั่นเอง ในอนาคตหากพรรคการเมืองต้องทำการเมือง ต้องปรับตัว การเมืองแบบเก่ามากเกินไปก็ไปยาก จึงต้องผสมผสานเข้าด้วยกันของคนทุกช่วงวัย เพราะวันนี้ ส.ส. ที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน ก็ไม่แน่เสมอไปว่าต้องได้รับการเลือกตั้งเข้ามา แต่วันนี้คนเลือกพรรค เช่น พรรคก้าวไกล คนก็เลือกพรรค
ส่วน หลังจากนี้แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีการพูดคุยกันถึงแนนวทางการทำงานของพรรคหรือไม่ ยอมรับว่า เมื่อคืนมีการพูดคุยกันแล้วและมีการประเมินสถานการณ์แล้ว ซึ่งก็คิดว่าทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคคุยกันแล้วว่าจะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร












