‘เศรษฐา’ รับฟังปัญหาแรงงาน อ.ทุ่งสง สะท้อนปัญหาราคายางตกต่ำ ทำรายได้ไม่เพียงพอ
วันนี้ (27 เม.ย. 66) ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 6 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1 พบผู้ใช้แรงงานโรงงานพลาสติก ที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลาภทักษิณพลาสติก จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรับฟัง และรวบรวมปัญหาจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานโรงงานพลาสติกเพื่อนำมาจัดทำเป็นนโยบาย และหาแนวทางแก้ไข
ตัวแทนผู้ใช้แรงงานฯ ระบุว่า โรงงานยังพออยู่ได้ตามสภาพ แต่ปัญหาหลักคือราคายางตกต่ำ เพราะรายได้หลักของทุกครอบครัวคือทำสวนยาง และกรีดยาง ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย และช่องทางการค้าขายของพวกเรายังไม่ครอบคลุม เราต้องการถนนวงแหวน และศูนย์กระจายสินค้า เพราะ อ.ทุ่งสง ถือเป็นสะดือของภาคใต้ ระหว่างอันดามันกับอ่าวไทย เรามีสถานที่ มีตู้คอนเทนเนอร์ มีรถขนส่งพร้อมแล้วขาดเพียงแต่การเชื่อมต่อการคมนาคม สุดท้าย เราขอสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และขอให้พรรคเพื่อไทยผลักดันอำเภอทุ่งสงให้เป็นจังหวัดใหม่ในอนาคตด้วย
นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัญหาหลักคือปัญหาเรื่องรายได้ ทราบว่า รายได้หลักคือยาง แต่ราคายางกลับตกต่ำ รัฐบาลของพวกเราที่ผ่านมาได้พยายามไปคุย และไปเจรจากับผู้ผลิตรายใหญ่เพื่อรักษาระดับราคายางไม่ให้ตกต่ำ รวมทั้งเรายังคิดวิธีเพิ่มผลิต และเพิ่มน้ำยางให้มากขึ้น 1 เท่าจากที่มีอยู่ โดยการใช้ทั้งการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม และการใช้ปุ๋ย เพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เรายังมีนโยบายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำปีแรกเป็น 400 และต้องได้ 600 ในปี 70 ทั้งนี้ เมื่อประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นยอดความต้องการสินค้าก็จะเพิ่มขึ้น ยอดการผลิตสินค้าก็จะเพิ่มขึ้นด้วย โรงงานก็จะสามารถมีเงินมาจ่ายให้กับแรงงานได้
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า วันนี้เราเข้าใจว่าประชาชนเดือดร้อนมามากจากช่วงโควิดที่ผ่านมา จะมาหยอดเงินให้ครั้งละ 400-500 บาทอีกไม่ได้ เราอยากให้ประชาชนมีเงินก้อนเพื่อตั้งตัวได้อย่างมีศักดิ์ศรี เราจึงคิดนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล เติมเงินให้ประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท ซึ่งจับจ่ายมาก ร้านค้าก็เสียภาษีมาก มีแต่ได้กับได้ กล่าวคือ ประชาชนได้ รัฐบาลก็ได้ และเราเชื่อว่า จุดยืนเรื่องประชาธิปไตยบนเวทีโลกก็สำคัญ ซึ่ง 8 ปีที่ผ่านมา เราอยู่กันแต่แบบนี้ เราไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อไปเปิดตลาดใหม่ ไม่ว่าจะตลาดตะวันออกกลาง แอฟฟริกา ฯลฯ
“เราเข้าใจที่มีพรรคการเมืองที่เข้ามาดูแลประชาชนมาหลายสิบปี เราเข้าใจความผูกพันนั้น เราไม่ว่าอะไร แต่วันนี้เรามาด้วยความตั้งใจ แม้การเลือกตั้งครั้งนี้เราจะไม่ได้ ส.ส.เลยก็ตาม แต่เราก็จะมาอีก จะมาขอความรักจากพี่น้องประชาชนภาคใต้ และผู้สมัครส.ส.ของเราก็จะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนเช่นเดิม ดังนั้น ตนขอแบ่งความรักให้พรรคเพื่อไทยบ้าง ให้เราได้มี ส.ส.ใต้เขาไปยืนอยู่ในสภา ได้ทำงานให้พี่น้องประชาชน โดยที่ผ่านมาสมัยที่เราเป็นรัฐบาลเราก็ไม่เคยได้ ส.ส.ภาคใต้เลย แต่เราก็ดูแลพี่น้องประชาชนภาคใต้อย่างตั้งใจ ดังนั้น วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เราหวังว่า จะเป็นวันแห่งการเปลี่ยนแปลง รักใครเก็บไว้ในใจ แต่กาเพื่อไทย ทั้ง 2 ใบ” นายเศรษฐา กล่าว












