‘นอท สลากพลัส’ ฟ้อง ‘สันธนะ’ เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
‘นอท สลากพลัส’ ฟ้อง ‘สันธนะ’ เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน ชี้คุยกัน 3 ครั้ง ไม่เคยคุยเรื่องธุรกิจ และไม่ขอร่วมงานด้วย
วันนี้ (6 ธ.ค.65) นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือนอท ซีอีโอกองสลากพลัส แถลงข่าวกรณียื่นฟ้องนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ข้อหาหมิ่นประมาทฯ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท และชี้แจงการนำจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มแทนลูกค้าจำนวน 190 ล้านบาท ว่า ขณะนี้กองสลากพลัสชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) ย้อนหลังให้กับลูกค้าแล้วราว 190 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าบริการนอกเหนือจากราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล 80 บาท โดยก่อนหน้านี้ที่นายสันธนะ เคยจะมาตรวจสอบภาษี และกล่าวหาว่าตนเองเลี่ยงภาษีนั้น จะขอดำเนินการฟ้อง เพราะกองสลากพลัสไม่มีการเลี่ยงภาษีแต่อย่างใด ชำระหมดแล้วทั้งภาษีนิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat)
โดยเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้มอบอำนาจให้ทนายความไปยื่นฟ้องนายสันธนะ ในฐานหมิ่นประมาทฯ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีการค้ายา และทำหวยเรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท ส่วนคดีที่เคยแจ้งความนายสันธนะไว้ ในฐานบุกรุกสำนักงาน ขณะนี้สำนวนคดียังค้างอยู่ที่ สน.ทองหล่อ อยู่ระหว่างกระบวนการทางกฎหมาย การที่นายสันธนะ อ้างว่าจะมาตรวจสอบนั้น นายสันธนะไม่มีสิทธิ์ เพราะเป็นคนธรรมดา การจะเข้าไปตรวจสอบบุคคลอื่น จะต้องเป็นเจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกนายสันธนะแล้ว 2 ครั้ง แต่นายสันธนะไม่ไปให้ปากคำ เพิ่งจะเดินทางไปให้ปากคำครั้งแรกวันนี้ มองว่านายสันธนะพยายามจะยืดเวลาไปเรื่อย ๆ
ก่อนหน้านี้ที่นายสันธนะ เคยมาหาตนเองถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกประมาณเดือน ม.ค.64 ขณะนั้นยังไม่รู้จักว่านายสันธนะคือใคร จึงมีการนั่งพูดคุยด้วย แต่ลักษณะการคุยของนายสันธนะ ทำให้ตนเองรู้สึกเหมือนโดนข่มขู่ เพราะนายสันทนะพยายามย้ำคำพูดว่า “ไม่ได้มารีดไถ”
ครั้งที่สอง วันที่ 14 มิ.ย.64 ได้มีการนำคลิปวิดีโอมาให้ดู แต่ตนเองไม่สามารถเปิดคลิปดังกล่าวให้ดูได้ตอนนี้ ลักษณะการมาของนายสันธนะยังทำให้รู้สึกว่ามาข่มขู่เช่นเดิม หลังจากการเดินทางมาครั้งที่ 2 ของนายสันธนะ พบว่ามีชายคนหนึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อคเต็มใบมาหาถึงหน้าบ้านด้วย
ส่วนครั้งที่ 3 วันที่ 1 เม.ย.65 เป็นครั้งที่ตนเองเข้าแจ้งความนายสันธนะ ฐานบุกรุก เพราะมีการส่งลูกน้องจำนวน 2 คน มาคุยกับยามด้านล่างตึก และขึ้นลิฟต์บุกเข้ามาถึงชั้น 12A ซึ่งเป็นชั้นที่ตนเองเก็บล็อตเตอรี่ของลูกค้าไว้ 400 ล้านใบ และมีเงินสดอยู่จำนวนมาก ทำให้ตนเองไม่สบายใจ โดยนายสันธนะกับพวกเดินเข้ามาโดยพละการ ไม่มีการนัดหมาย หรือได้รับอนุญาต ตนเองก็ไม่ได้ยินดีให้นายสันธนะเข้ามา จึงมีการนำคลิปจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความ และโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว
นายพันธ์ธวัช กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้นายสันธนะ ยังได้การนำภาพออกมาโชว์ อ้างว่าเข้ามาคุยธุรกิจกับตนเอง ซึ่งภาพนั้นเป็นภาพแอบถ่ายภายในห้องประชุม เป็นภาพที่ตนเองนั่งคุยกับนายสันธนะอยู่บนโต๊ะ โดยตนอาจจะฟ้องข้อหา PDPA ต่อไป หากตอนนี้กฎหมาย PDPA เข้ามาแล้ว ขอยืนยันว่า นายสันธนะไม่เคยเข้ามาคุยธุรกิจด้วยสักครั้ง ถ้าอยากมาร่วมธุรกิจจริงก็ไม่ยินดีร่วม การแอบถ่ายภาพแล้วอ้างว่าเคยคุยธุรกิจด้วยนั้น มองว่าไม่บริสุทธิ์ใจ เพราะถ้าคุยธุรกิจจริง ทำไมถึงไม่ถ่ายร่วมเฟรมกันดี ๆ ทำไมถึงต้องแอบถ่ายจากด้านหลังโซฟา













