ป.ป.ส.ปฎิบัติการขยายผล บุกยึดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดระดับสั่งการ

ป.ป.ส. ปฎิบัติการขยายผล บุกยึดทรัพย์สิน – บ้านหรู มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท นักค้ายาเสพติดระดับสั่งการ เปิดบริษัทบังหน้า ซุกซ่อนยาไอซ์ในซิลิโคน เตรียมส่งไปประเทศไต้หวัน

วันนี้ (28 ต.ค. 65) เวลา 08:00 น. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปราม และสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force : SITF) เข้าตรวจยึดบ้านหรู ในพื้นที่เขตสะพานสูง กทม. เพื่อสืบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม และยึดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดระดับสั่งการ หรือผู้บงการ ที่เตรียมส่งยาไอซ์ไปประเทศไต้หวันน้ำหนักกว่า 945 กิโลกรัม และยึดทรัพย์สินรวมทั้งหมดกว่า 50 ล้านบาท

นายวิชัย กล่าวว่า การเข้ายึดทรัพย์สินในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากวันที่ 14 สิงหาคม 2565 ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติด ในพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force : SITF) จับกุมยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 945 กิโลกรัม ซุกซ่อนในแผ่นซิลิโคน เตรียมส่งไปยังประเทศไต้หวัน ที่ท่าเรือกรุงเทพ ก่อนขยายผลจับกุม นายสมชาติ สวีร์โชติสกุล (ผู้ต้องหา ตามหมายจับ) มีบทบาท ในการเปิดบริษัทนําเข้า – ส่งออกสินค้า และ น.ส.พรทิพา วงษ์จินดา พร้อมของกลาง ไอซ์ 76 กก. และตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท ที่โกดังเก็บสินค้า ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และบ้านเช่า ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จากการขยายผลพบผู้ว่าจ้าง และสั่งการคือ นายสมปราชญ์ แซ่อึ้ง อายุ 53 ปี โดยปรากฏหลักฐานเส้นทางการโอนเงินที่ให้ดำเนินการเกี่ยวกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงรวบรวบพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ

อีกทั้ง นายสมปราชญ์ ยังมีหมายจับในคดีก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้ได้หลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านให้ช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ได้เข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 3 จุด ในพื้นที่ กทม. และ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ เกี่ยวเนื่องกับนายสมปราชญ์ โดยตรวจยึดบ้านพักหรู มูลค่าประมาณ 21 ล้านบาท ในพื้นที่ เขตสะพานสูง กทม. รวมทั้งอายัดเงินในบัญชีธนาคารของนายสมปราชญ์ทันทีหลังศาลออกหมายจับ โดยบ้านหลังดังกล่าวนั้น นายสมปราชญ์ ได้จดทะเบียนได้ประมาณ 6 เดือน โดยใช้ชื่อของลูกชาย จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการขยายผล และดำเนินการได้ล่าช้า ซึ่งจะต้องสอบสวนเพิ่มเติมว่าลูกชายมีส่วนรู้เห็นต่อการกระทำผิดของผู้เป็นพ่อหรือไม่

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ปฏิบัติการนี้มุ่งปราบกลุ่มผู้ค้าและขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งถือเป็นต้นตอแท้จริงของปัญหายาเสพติด กลุ่มอาชญากรเหล่านี้ต้องรับการลงโทษอย่างเด็ดขาด และใช้มาตรการยึดทรัพย์ที่เกี่ยวกับยาเสพติดทั้งหมด โดยสามารถยึดทรัพย์สินอื่นทดแทน จนเท่ากับรายได้ที่มา จากการค้ายาเสพติดซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้มีการสืบสวนจากการจับกุมจนถึงตัวผู้สั่งการที่มีอิทธิพล โดยมีวางเป้าหมายการยึดทรัพย์ที่ในปี 2566 ตั้งเป้าหมายไว้ที่การยึดทรัพย์สินขบวนการค้ายาเสพติดให้ได้ 1 แสนล้านบาท