เครือข่าย ปชช. ลุ่มน้ำโขง ร้อง อสส.ชะลอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า

เครือข่าย ปชช. 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ร้องอัยการสูงสุด ชะลอสัญญาซื้อขายไฟจากเขื่อนแม่น้ำโขง

เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ส่งจดหมายถึงสำนักงานอัยการสูงสุด ขอให้ชะลอการตรวจสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement) ระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัทผู้พัฒนาโครงการเขื่อนปากแบง เขื่อนปากลาย และเขื่อนหลวงพระบาง เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการ การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร และอยู่ในช่วงวิกฤตค่าไฟแพง ขณะที่พลังงานสำรองของประเทศไทย ยังคงสูงเกิน 50%

หนังสือดังกล่าว ระบุว่า การรับซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนบนแม่น้ำโขงทั้ง 3 แห่ง จะยิ่งทำให้เกิดภาระค่าไฟฟ้าในระยะยาวต่อผู้บริโภค และชาวบ้านริมแม่น้ำโขง 8 จังหวัดยังต้องแบกผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน ดังที่กำลังเกิดขึ้นจากกรณีเขื่อนไซยะบุรี ซึ่งกั้นแม่น้ำโขงในลาว

นายมนตรี จันทวงศ์ กลุ่มเสรีภาพแม่น้ำโขง กล่าวว่า ต้องมีการเปิดเผยสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ระหว่าง กฟผ.กับบริษัท ต่อสาธารณะ เพราะเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของสาธารณะ ส่วนขอกังวลของชาวบ้าน คือ สัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าวมีลักษณะเป็นการ “ไม่ซื้อ ก็ต้องจ่าย” (take or pay) ซึ่งอาจเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนผู้พัฒนาโครงการ หากมีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไปแล้ว ก็จะไม่สามารถแก้ไขได้ เป็นเวลาอย่างน้อย 29 – 35 ปี ตามอายุสัญญา ขณะที่ประชาชนถือเป็นผู้ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ในฐานะผู้บริโภค ต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นโดยไม่มีความเป็นธรรม ในระยะยาว