POLITICS

สธ. สรุปยอดผู้เสียชีวิตน้ำท่วมสงขลา 140 ราย เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ที่เหลือ

สธ. สรุปยอดผู้เสียชีวิตน้ำท่วมสงขลา 140 ราย เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ที่เหลือ – ส่ง Mini MERT 104 ทีม ฟื้นฟูชุมชนกว่า 1.1 หมื่นราย พร้อมติดตามผู้มีภาวะเครียดสูง

วันนี้ (1 ธ.ค. 68) เวลา 17.00 น. ณ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้ นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข

นพ.สมฤกษ์ แถลงความคืบหน้าการบริการสาธารณสุข ทั้ง 1) ผลการชันสูตรศพ 2) การฟื้นฟูชุมชน สุขาภิบาล อาหาร และน้ำป้องกันโรคติดต่อ 3) การฟื้นฟูระบบบริการสาธารณสุข ร.พ. หาดใหญ่ ร.พ.ชุมชน สต.ในพื้นที่ จ. สงขลา และจังหวัดข้างเคียงอีก 8 จังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมเช่นเดียวกัน

นพ.ศักดาฯ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์อุทกภัยที่จังหวัดสงขลา อำเภอหาดใหญ่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์และศูนย์รวบรวมศพผู้เสียชีวิต ณ เวลา 16.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2568 มีผู้เสียชีวิตที่ รพ.สงขลานครินทร์ ทั้งหมด 140 ราย แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้ 1) เสียชีวิตใน รพ.ทั้งหมด 65 ราย 2) เสียชีวิตนอก รพ. ทั้งหมด 75 ราย รวมเป็น 140 ราย ผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว 104 ราย ยังเหลืออีก 36 ราย ที่รอการพิสูจน์ตัวบุคคล โดยได้ส่งคืนศพญาติไปแล้ว 23 ราย ศพที่ค้างอยู่ในหน่วยจุดรวม 117 ราย

ด้านนพ.เอกชัยฯ กล่าวว่าการฟื้นฟูชุมชนเรื่องของสุขาภิบาล กระทรวงสาธารณสุขได้สนับสนุนดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงหลังจากน้ำท่วมมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เรียกว่า Mini MERT (Mini Medical Emergency Response Team) สับเปลี่ยนหมุนเวียน โดยระดมกำลังมาจากพื้นที่ใกล้เคียงหลาย ๆ จังหวัดรวมจำนวนทั้งหมด 104 ทีม มีการดำเนินการตั้งแต่ในช่วงวันที่ 25 – 30 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ให้บริการพี่น้องประชาชนสะสมประมาณ 11,147 ราย มีการค้นหาเข้าถึงผู้ป่วยในชุมชนที่เดินทางเข้าถึงยาก มีการตรวจรักษาเบื้องต้น ให้ยาทันทีในชุมชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ติดเตียงมีการประเมินภาวะฉุกเฉิน ในช่วง 6-7 วันที่ผ่านมาส่งต่อทางบก 259 ราย ส่งต่อทางอากาศ 213 ราย นอกจากนี้ ยังมีทีมแพทย์เดินเท้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแพทย์และพยาบาลสาธารณสุข และ อสม. ที่ร่วมทีมกันในการสับเปลี่ยนหมุนเวียน 124 ทีม ในช่วงวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2568 ครอบคลุมชุมชนทั้งหมด 78 ชุมชนจาก 103 ชุมชน ประมาณถึง 75% ของชุมชนทั้งหมด มีบริการสะสม 10,427 ราย

นพ.เอกชัยฯ กล่าวต่อว่า ทีม MCATT ซึ่งทำหน้าที่ประเมินสุขภาพจิตในชุมชนทั้งหมด สามารถประเมินสุขภาพจิตพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาภาวะทางด้านสุขภาพจิต 3,800 ราย แบ่งเป็น พบว่ามีภาวะเครียดสูง 216 ราย เสี่ยงที่จะฆ่าตัวตาย 8 ราย ได้มีการประเมินความเครียดและให้ความช่วยเหลือทันทีและติดตามอย่างใกล้ชิด และในรายที่มีความเสี่ยงจะทำร้ายตัวเอง มีการดูแลและส่งต่อเข้าสู่ระบบการรักษาใน รพ. และจะมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง

ทาง สธ. ได้แนะนำแนวทางการปฏิบัติดูแลตนเองและทำความสะอาดบ้านเรือนป้องกันโรคที่จะเกิดขึ้น รวมไปจนถึงโรคติดต่อต่างๆ และการป้องกันตัวเองในการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น และโรคฉี่หนู ซึ่งมักจะพบหลังน้ำลด ทั้งนี้ หากประชาชนมีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดหัวรุนแรงตาแดง ปวดกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะบริเวณน่อง ขา เอว ให้รีบไปพบแพทย์

นพ.ศักดาฯ กล่าวว่า โรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลชุมชน และอีก 8 จังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม เริ่มเปิดให้บริการต่างๆ แล้วควบคู่กับการฟื้นฟู ซึ่งในอนาคตได้มีการวางแผนเป็นระยะๆ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน 1) ฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาทำงานได้ มีเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนเข้ามาดูแล โดยเมื่อวานนี้ได้ลงพื้นที่ไปพร้อมกับนายกรัฐมนตรี การทำความสะอาด รพ.ชั้น 1 และทดสอบระบบต่างๆ โดยมีหลายหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้ฟื้นฟูได้เร็วที่สุด 2) เจ้าหน้าที่มีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนจากภายนอก ช่วยทำให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหาดใหญ่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้เร็วขึ้น 3 ) สำรวจเรื่องของครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่เสียหายจากน้ำท่วม เพื่อที่จะหาวิธีการทดแทน และซ่อมแซมต่างๆ เพื่อให้บริการได้เร็วที่สุด

กระทรวงสาธารณสุขได้มีการเตรียมตู้คอนเทนเนอร์รับศพ ไว้รองรับร่างผู้เสียชีวิต ขณะนี้ประชาชนกลับเข้าไปในพื้นที่เกือบจะครบ 100% ซึ่งเจ้าหน้าที่ต่างๆ ก็เข้าไประดมทำความสะอาดในส่วนต่าง ๆ อาจจะมีเล็กน้อยตรงจุดที่อาจจะยังเข้าไม่ถึง

นายศักดาฯ กล่าวชี้แจงประเด็นการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตคืนว่ามีจำนวนน้อยหรือไม่นั้นว่า ต้องพิสูจน์ 3 เรื่องประเด็นใหญ่ คือ เวลาที่เสียชีวิต อายุ และตัวบุคคล รวมถึงสาเหตุการเสียชีวิต โดยในช่วงโกลาหลที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์น้ำท่วม นิติเวชหรือผู้ที่จะทำหน้าที่พิสูจน์อัตลักษณ์ต่าง ๆ ช่วงแรกยังไม่ได้ลงไปปฏิบัติหน้าที่ จึงทำให้เกิดการค้างอยู่ในช่วงแรก ต่อมาเมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วย กระทรวงสาธารณสุข ทีมนิติเวชได้ลงไปเคลียร์งานในพื้นที่ร่วมกับ รพ. สงขลานครินทร์ และหน่วยพิสูจน์หลักฐาน ขณะนี้สามารถเคลียร์ได้หมดแล้ว ในส่วนของการยืนยันตัวตนบุคคล เหลือเพียงบางส่วนที่ยังรอยืนยัน

ด้านนายสมฤกษ์ฯ กล่าวเสริมว่า เมื่อกระบวนการยืนยันตัวบุคคลเสร็จสิ้น ตำรวจก็ต้องติดตามญาติ ซึ่งจะเพิ่มกลไกของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขหรือท้องถิ่นในการตามญาติ ขณะนี้ส่งคืนญาติได้แล้ว 23 ราย ซึ่งเป็นกระบวนการนำญาติมาดูศพตามขั้นตอน

ส่วนเรื่องของเกณฑ์การแบ่งผู้เสียชีวิต นายศักดาฯ กล่าวว่า แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลและนอกโรงพยาบาล ทั้งหมดจะมารวมกันอยู่ที่ศูนย์ชันสูตรพลิกศพ แล้วใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ในการแยกในส่วนตรงนี้ ให้การชันสูตรพลิกศพจะรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร กระบวนการที่ล่าช้านั้น ช้าในเรื่องของการหาสาเหตุของการเสียชีวิตร่วมด้วยกับการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ส่วนสาเหตุอื่นในการเสียชีวิต เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยที่ไม่ได้เข้าถึงการรักษาในขณะน้ำท่วม ส่วนของตรงนี้เป็นเรื่องของสภาพแวดล้อมภายนอกที่ประกอบกับผู้เสียชีวิต เพื่อที่จะยืนยันในเรื่องของการเสียชีวิต กระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่ในการชันสูตรในตรงนี้ แต่อาจจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสืบสวนสอบสวน ที่ต้องเข้ามาทำงานร่วมกัน

ส่วนเกณฑ์ว่ากรณีใดจะได้รับเงินเยียวยารายละ 2 ล้านหรือไม่ กระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่หาสาเหตุการเสียชีวิตตามขั้นตอนกระบวนการให้ครบถ้วน ส่วนญาติผู้เสียชีวิตจะเอาข้อมูลตรงนี้ไปทำอะไร เป็นอีกประเด็นหนึ่ง เช่น การทำธุรกรรมเบิกประกันชีวิต ซึ่งข้อมูลก็จะต้องครบถ้วน เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขที่จะต้องจัดทำข้อมูลให้ครบถ้วนตามกระบวนการ ส่วนเรื่องของการเยียวยาเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะนำข้อมูลไปเข้ากระบวนการเยียวยา ซึ่งเป็นอีกมิติหนึ่ง

ประเด็นการแบ่งเกณฑ์ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุอื่นที่ไม่ใช่การจมน้ำ แต่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ขณะที่อยู่หน้างาน กระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ โดยต้องไปดูในสำนวนการสืบสวนสอบสวนและพยานแวดล้อม เพราะจะมาจากที่ญาติชี้ จากตำรวจที่จะเข้าไปดูสถานการณ์หน้างาน แล้วนำมาประกอบกับสาเหตุการเสียชีวิตว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ส่วนข้อมูลทั้งหมดในรายบุคคลมีระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้ว และจะมีการรวบรวมอีกครั้งหนึ่งเพื่อนำมาประมวลภาพรวมของกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้งหนึ่ง

Related Posts

Send this to a friend