ตำรวจสอบสวนกลาง ยึดคืนทรัพย์สินวัดพระบาทน้ำพุมูลค่ากว่าหมื่นล้าน
ตำรวจสอบสวนกลาง ยึดคืนทรัพย์สินวัดพระบาทน้ำพุมูลค่ากว่าหมื่นล้าน หลังจับอดีตเจ้าอาวาส–หมอบี คดีทุจริตเงินบริจาค ยัน เดินหน้าขยายผลเอาผิดผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด
วันนี้ (13 พ.ย. 68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ ‘Operation Endgame: ปฏิบัติการคืนศรัทธา บอกลางมงาย สไตล์ CIB’ ทวงคืนทรัพย์สินสู่วัดพระบาทน้ำพุ มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท
สืบเนื่องจาก วันที่ 11 เมษายน 2568 ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยา และอาจารย์ประจำภาควิชาสังคมศาสตร์ พาผู้ร้องเรียนเข้าพบตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ข้อมูลว่า นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ ‘หมอบี’ มีพฤติการณ์ทุจริตเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ที่ประชาสัมพันธ์เปิดขอรับบริจาคเงินผ่านโซเชียลมีเดีย อ้างว่าทำหน้าที่เป็นสะพานบุญ นำเงินที่ผู้ร่วมทำบุญโอนเข้ามาไปส่งมอบให้วัดพระบาทน้ำพุ เพื่อที่พระราชวิสุทธิประชานาถ (หลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ นำไปใช้ช่วยเหลือผู้ป่วย และตามวัตถุประสงค์ของวัด
ทั้งนี้ หมอบี เปิดบัญชีใช้ชื่อ “ใจฟ้าอาทรประชานาถ โดย นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล” ในการรับเงินบริจาคเงินตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2562 มีประชาชนบริจาคเงิน ยอดเงินหมุนเวียนเข้าบัญชีกว่า 300 ล้านบาท
กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ตรวจพบหลักฐานเชื่อได้ว่า หมอบีไม่ได้นำเงินบริจาคทั้งหมดส่งมอบให้กับวัดตามที่ระบุไว้ โดยนำเงินบางส่วนไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว ส่วนเงินที่ส่งมอบให้หลวงพ่ออลงกต ไม่ได้ถูกนำเข้าระบบการเงินของวัด แต่นำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว เช่น ปล่อยกู้บุคคลภายนอก จัดซื้อทรัพย์สินในชื่อบุคคลอื่น เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 17 จุด ทั้งใน กทม. และลพบุรี เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ได้แก่
1.อลงกต พูลมุข หรือ หลวงพ่ออลงกต อายุ 65 ปี ในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์, ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และฟอกเงิน”
2.เสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี อายุ 43 ปี ในข้อหา “สนับสนุนการกระทำความผิดในทุกข้อกล่าวหาข้างต้น รวมถึงร่วมฟอกเงิน”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางสำคัญหลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์ 3 คัน มูลค่ารวมกว่า 8 ล้านบาท, เงินสดรวม 2,562,350 บาท, กระเป๋าแบรนด์เนม 3 ใบ มูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท, เช็คนำฝาก 21 ใบ มูลค่ารวมกว่า 52 ล้านบาท และโฉนดที่ดินและเอกสารสิทธิรวม 23 ฉบับ พื้นที่รวม 323 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท
จากการตรวจสอบพบว่า ทรัพย์สินส่วนหนึ่งประกอบด้วย โฉนดที่ดิน 411 ฉบับ รวมพื้นที่ประมาณ 2,258 ไร่ 3 งาน 28.5 ตารางวา และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) อีก 389 แปลง รวมพื้นที่กว่า 4,957 ไร่ 2 งาน 74 ตารางวา รวมแล้วมีที่ดินที่นำกลับคืนสู่ความครอบครองของวัดได้มากกว่า 7,200 ไร่
นอกจากนี้ ยังยึดยานพาหนะประเภทต่าง ๆ ทั้งรถยนต์ และรถเพื่อการเกษตรกว่า 60 คัน เมื่อรวมมูลค่าประเมินของที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าหลังการจับกุม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเพิ่มเติม เชื่อว่ายังมีผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอีกจำนวนหนึ่ง โดยจะดำเนินการตรวจสอบให้ถึงที่สุด เพื่อให้วัดพระบาทน้ำพุได้รับทรัพย์สินกลับคืนอย่างถูกต้อง
ในส่วนของพระมหาสมปอง ได้ส่งคืนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องแล้ว ขณะที่กรณีของศิลปิน หรือนักแสดงตลก ยังไม่มีข้อมูลยืนยัน แต่เบื้องต้นพบว่าผู้เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวัดและพระภิกษุเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ขอให้บุคคลใดก็ตามที่ยังครอบครองทรัพย์สินของวัดพระบาทน้ำพุโดยมิชอบ รีบส่งคืนโดยเร็ว ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสุดท้ายก่อนที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองรายใช้สิทธิให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน โดยตำรวจสอบสวนกลางยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าสืบสวนขยายผล เพื่อดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการหาผลประโยชน์จากวัดพระบาทน้ำพุให้ถึงที่สุด















