‘นันทนา‘ ชี้ มติ สว. เสียงข้างมากฟันจริยธรรมร้ายแรง ถือเป็นมติอัปยศ สะท้อน วุฒิสภามีเจ้าของสั่งการได้
‘นันทนา‘ ชี้ มติ สว. เสียงข้างมากฟันจริยธรรมร้ายแรง ส่งต่อ ป.ป.ช. ถือเป็นมติอัปยศ สะท้อน วุฒิสภามีเจ้าของสั่งการได้ ย้ำ จะไม่แตกสลาย สู้ต่อเพื่อประชาชน ขณะ สว.อิสระ ไม่เห็นด้วย บอกความผิดแค่ปุยนุ่น แต่กลับผิดจริยธรรมร้ายแรง ด้าน ‘ทนายอั๋น‘ ให้กำลังใจ พร้อมร่วมสู้ต่อจนถึงที่สุด
วันนี้ (28 ต.ค. 68) นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเรื่องจริยธรรมอำพรางในวุฒิสภา หลังที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก พิจารณาว่าผิดจริยธรรมร้ายแรงพร้อมส่งเรื่องต่อให้ ป.ป.ช. ว่า การประชุมวุฒิสภาเป็นมติอัปยศ สะท้อนชัดเจนว่า วุฒิสภาแห่งนี้มีเจ้าของสั่งการได้ ไม่ว่าต้องการอะไร จะสามารถกดปุ่ม และให้เดินหน้าไปตามนั้นได้ สิ่งที่ตนเองถูกกระทำ คือการเรียกร้องให้การจัดกรรมาธิการ เป็นไปตามกลุ่มอาชีพ และความถนัด แต่กลับถูกลงมติให้ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง นี่คือการสมคบคิดกันมาตั้งแต่ต้น ผู้ที่มาร้องนั้น เป็นทนาย ซึ่งรับจ้างมาร้อง และเมื่อมีการยื่นเรื่อง ก็มีการรับเข้ามาตรวจสอบอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็มาถึงวันกดปุ่มในสภา 130 เสียง ให้ตนเองผิดจริยธรรม รับไป ป.ป.ช. นี่คือความอัปลักษณ์ของสิ่งที่เรากำลังจะพบในการเมืองไทย นี่คือสิ่งที่ตนเองจะต่อสู้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตนเองจะไม่แตกสลาย จะยืนหยัดเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน และจะต่อสู้ให้การกินรวบในประเทศนี้ ทำไม่ได้ ไม่ว่าจะการกินรวบวุฒิสภา องค์กรอิสระ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ จะต่อสู้จนถึงที่สุด และพวกเราฝ่ายอิสระทุกคน จะต่อสู้ให้กับประชาชน เราจะไม่แตกสลาย

การลงมติวันนี้เป็นไปตามที่ สส. ท่านหนึ่งได้โพสต์ในเฟสบุ๊คบอกว่าคนที่พัวพันคดีฮั้ว สว. มาตัดสินจริยธรรมคนที่เปิดโปง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นในกรรมการจริยธรรม ตนเองไม่เคยได้รับรู้ และไม่เคยได้เข้าไปชี้แจงใด ๆ ทั้งสิ้น แม้แต่คนที่นั่งฟังอยู่ตรงนี้ ก็ฟังสิ่งที่ที่มันไม่ถูกต้อง เอกสารก็บิดเบือน ข้อเท็จจริงไม่ถูกต้อง นำมาอ่านแล้วลงมติ นี่คือวุฒิสภาหรือ?
“คำกล่าวเพียงว่าคนขายหมูเข้าไปกรรมาธิการพัฒนาการเมือง มันปิดฝาผิดตัว ทำไมถึงจะต้องผิดจริยธรรมขั้นร้ายแรง นี่คือวุฒิสภาที่มีเจ้าของ และสั่งได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ใบสั่งมา ทุกอย่างจะเป็นไปตามนั้น” นางนันทนา กล่าว
นางนันทนา กล่าวอีกว่า พวกเราอยู่ในสภาแห่งนี้ด้วยการถูกกดขี่ ข่มเหง กรรมาธิการวิสามัญในการพิจารณากฎหมาย พวกเราไม่ได้เป็น บาง กมธ. 1 คน เป็นเกือบ 20 คณะ การที่ตนเองถูกตัดสินว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง จะส่งผลไปยัง สว. คนอื่น เป็นการปิดปาก นี่คือการใช้นิติสงครามในการเล่นงานคนที่เห็นต่าง ออกมาต่อต้าน หรือออกมาต่อสู้ให้เกิดความยุติธรรมให้แผ่นดินนี้
“ขอฝากว่า สว. นันทนา ยังจะต่อสู้ต่อไป จะต่อสู้ให้กับพี่น้องประชาชน และจะไม่สยบยอมกับสีน้ำเงิน จะไม่ยอมให้สีน้ำเงินมากินรวบประเทศไทย ดิฉันจะสู้ และจะไม่ถอย เราจะปล่อยให้ประเทศเป็นเช่นนี้ต่อไปหรือ นี่คือหายนะประเทศไทย” นางนันทนา กล่าว

เมื่อถามว่า หากเรื่องเข้า ป.ป.ช. จะรู้สึกว่าได้รับความเป็นธรรมกว่าหรือไม่ นางนันทนา ระบุว่า หวังว่ากระบวนการใน ป.ป.ช. เป็นกระบวนการที่โปร่งใส ชัดเจน เปิดโอกาสให้มีการนำเสนอข้อมูลหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา และยังเชื่อในความเป็นธรรม การนำเรื่องที่พูดคำว่าคนขายหมู ส่งไปใน ป.ป.ช. มันจะเป็นเรื่องน่าขำขันหรือไม่ แต่ สว. ที่มีคดียาเสพติดหรือคดีฆาตกรรม กลับลงมติว่าไม่ผิดจริยธรรม พร้อมตั้งคำถามว่าเรื่องนี้ยังไม่จบในชั้นศาล โดยจะมีการชี้มูลในวันที่ 10 พ.ย. นี้ จึงเกิดคำถามว่าทำไมที่ประชุมถึงไม่รอให้คดีจบก่อน แล้วค่อยพิจารณา ส่วนระยะเวลาในการพิจารณาในชั้น ป.ป.ช. ตนเองคาดการณ์ไม่ได้ และไม่แน่ใจว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่
ด้าน นายแพทย์ เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. กล่าวว่า การพิจารณาเรื่องการผิดจริยธรรมเพื่อส่งเรื่องต่อไปไปยัง ป.ป.ช. มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยสว. ได้ยกเหตุผลสำคัญคือ ป.ป.ช. เป็นองค์กรเกี่ยวกับการตรวจสอบทุจริตและประพฤติมิชอบ แต่นางนันทนา ไม่เข้าข่ายในความผิดส่วนนั้นแม้แต่น้อย เพียงแต่การสัมภาษณ์ อาจจะกระทบบุคคล แต่บุคคลดังกล่าว ก็ไปให้การณ์แล้วว่าเป็นอาชีพ ไม่ได้เสียหาย แต่เหตุการณดังกล่าวก็ดำเนินเลยมาจนถึงลงมติ

นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่บอกว่านางนันทนา เห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม แต่ตนเองดูอย่างไร ก็ดูไม่ออก เพราะตลอดเวลาที่ทำงานกันมา นางนันทนา ก็เห็นแต่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก และบางครั้งก็เสียประโยชน์ส่วนตนด้วยซ้ำ ตนเองขอแสดงความเศร้าใจที่ สว. ได้ลงมติอัปยศที่ทำร้ายนักการเมืองที่ตั้งใจมาทำงานด้วยใจในวันนี้
ขณะที่ น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. ระบุว่า ตนเองเห็นภาพแล้วสะเทือนใจ เพราะ สว.ที่กล้าหาญต่อสู้วันนี้ถูกรุม ความผิดปุยนุ่นที่พูดออกจากใจกลับกลายเป็นความผิดใหญ่หลวงผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งระหว่างการแถลง น.ต.วุฒิพงศ์ ได้ร้องไห้ไปด้วย
ด้าน นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น ระบุว่า สว. บางคน ที่ตนเองยื่นสอบจริยธรรมไปทั้งคดีการลักทรัพย์ หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติด กลับไม่ถูกดำเนินการพิจารณาเรื่องการพิจารณาจริยธรรมร้ายแรง แต่ที่ประชุมกับพิจารณาเรื่องจริยธรรมกับนางนันทนา ตนเองก็ขอเป็นกำลังใจให้ และจะไม่ยอมให้สีน้ำเงินกินรวบประเทศ พร้อมฝากให้จับตามองในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคม ว่าอาจจะมีการยกคำร้องในเรื่องการฮั้ว สว. แต่อย่างไรก็ตามตนเองจะสู้ต่อไปจนถึงที่สุดแน่นอน













