POLITICS

‘ชัยธวัช’ หนุนนิรโทษกรรมคดี ม.112 แบบมีเงื่อนไข เห็นด้วยนิรโทษเด็ก ต่ำกว่า 18 ปี

‘ชัยธวัช’ หนุนนิรโทษกรรมคดี ม.112 แบบมีเงื่อนไข เห็นด้วยนิรโทษให้เด็ก อายุต่ำกว่า 18 ปี เตือนลงทัณฑ์คนรุ่นใหม่ไม่ใช่ทางออก

วันนี้ (21 ต.ค.68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข ฉบับที่… พ.ศ…. ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่มีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นประธานคณะกรรมาธิการ พิจารณาแล้วเสร็จแล้ว

นายชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะกรรมาธิการผู้สงวนความเห็นในมาตรา 3 ได้อภิปรายว่ากรรมาธิการเสียงข้างมากมีนัยยะสำคัญเพียงประเด็นเดียว คือ ขอให้กำหนดข้อยกเว้นไม่นิรโทษกรรม ให้กับผู้กระทำความผิดมาตรา 112 เฉพาะคนที่ไม่ยอมรับมาตรการการกระทำผิดซ้ำและให้อำนาจคณะกรรมการสร้างเสริมสังคมสันติสุข ซึ่งตนเองได้เสนอให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้นิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 อย่างมีเงื่อนไข เพราะตนเองได้พูดคุยกับหลายฝ่ายที่มีความเห็นแตกต่างกันกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ และบุคคลที่มาแสดงออกทางการเมืองแต่ถูกดำเนินคดีในมาตรา 112

ตนเองไม่ปฏิเสธว่าจะมีการปรองดองกันสร้างเสริมสังคมสันติสุข ให้อภัยต่อกันด้วยการนิรโทษคดี 112 เพียงแต่มีความกังวลว่าถ้านิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดตามมาตรา 112 แล้วนั้น เมื่อออกมาแล้วจะกลับมาแสดงออกทางการเมืองในสิ่งที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วยอีกหรือไม่ จึงเป็นที่มาของการนิรโทษกรรมคดี 112 แบบมีเงื่อนไข ซึ่งเชื่อว่ามาตรการแบบนี้เป็นมาตรการที่พยายามหาจุดตรงกลางเข้าใจทุกฝ่าย เข้าใจฝ่ายที่กังวลและฝ่ายที่ถูกดำเนินคดี เพื่อให้การนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้บรรลุเป้าหมายสูงสุดได้อย่างแท้จริง

ตนเองยังเชื่อว่าถ้าการนิรโทษกรรมครั้งนี้มีการขีดเส้นความขัดแย้งข้อต่าง ๆ ของกลุ่มการเมืองในอดีต แต่กีดกันการดำเนินคดีทางการเมืองที่มีในนัยยะที่สุดในปัจจุบันและอนาคต เราจะไม่สามารถบรรลุสิ่งที่เราบอกว่าสร้างเสริมสังคมสันติสุขได้ แต่อาจเป็นการบ่มบาดแผลและความขัดแย้งในสังคมไทยปัจจุบันเอาไว้ ให้บาดลึกมากยิ่งขึ้น และอาจกดดันให้เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งที่ ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทยในอนาคต

นายชัยธวัช ย้ำว่าถ้าเราพยายามทำความเข้าใจการแสดงออกของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 และมาตราอื่น ๆ นั้น เป็นเพียงปลายเหตุเป็นเพียงผลสะท้อน ของความไม่พอใจของพวกเขาต่อสิ่งที่คนรุ่นเก่าที่เรียกว่าเป็นผู้ใหญ่ได้สร้างไว้ให้กับการเมือง และส่งมอบเป็นมรดกให้กับพวกเขา ดังนั้นทางออกเพื่อให้เกิดการยุติการแสดงออกทางการเมือง เป็นภาระของเราทุกคน ที่จะต้องช่วยกันทำให้การเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเข้ารูปเข้ารอยอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ใช่หาทางออกด้วยการลงทัณฑ์คนรุ่นใหม่ที่รับเอามรดกบาปไป แล้วแสดงความรู้สึกออกมา

นายชัยธวัช ยังได้หยิบยกคำพูดของนางสาวเบญจา อะปัญ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถูกคดี 112 ว่า พวกเราเปลี่ยนอดีตไม่ได้แต่พวกเราร่วมกันเปลี่ยนอนาคตได้ ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนร่วมเปลี่ยนอนาคตร่วมสร้างสรรค์สังคมสันติสุขภายใต้ชื่อพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้ ด้วยการทำให้สังคมน่าอยู่ที่อยู่ร่วมกันได้แม้มีความเห็นแตกต่างกัน จึงขอเสนอให้พิจารณานิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 อย่างมีเงื่อนไขหรืออย่างน้อยเห็นด้วยกับการสงวนให้พิจารณานิรโทษกรรมคดี มาตรา 112 ให้แก่เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี

Related Posts

Send this to a friend