กทม. เตรียมยกระดับบังคับใช้กฎหมาย ‘ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ’
กทม. เตรียมยกระดับบังคับใช้กฎหมาย ‘ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ’ เล็งออกเทศบัญญัติ ตั้งหน่วยงาน-เจ้าหน้าที่ดูแลเฉพาะ คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่
วันนี้ (8 ต.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หารือร่วมกับ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ผู้ทรงคุณวุติคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ และ นพ.ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เรื่องการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่
ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า ควันบุหรี่เป็นมลพิษที่อันตรายต่อสุขภาพที่สำคัญสุดในอาคาร ทั่วโลกออกกฎหมายห้ามสูบในที่สาธารณะ มีการจัดตั้งหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเป็นการเฉพาะ ขณะที่ไทยแม้มีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะตั้งแต่ปี 2535 แต่การบังคับใช้ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่มีสถานที่สาธารณะจำนวนมาก มีคนสูบบุหรี่ถึง 1.2 ล้านคน ไม่นับนักท่องเที่ยวเฉพาะปี 2567 ที่มีถึง 32.4 ล้านคน ในจำนวนนี้มี 1 ใน 5 คนเป็นคนสูบบุหรี่
“ที่ประชุมมีมติว่า กทม. จะเชิญทีมนายกเทศมนตรีเมืองอิโลอิโล ประเทศฟิลิปปินส์ และทีมงาน มาแบ่งปันประสบการณ์ในการออกเทศบัญญัติจัดตั้งหน่วยงาน พร้อมอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 20 คน เพื่อบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ และกฎหมายควบคุมยาสูบอื่น” ศ.นพ.ประกิต กล่าว
ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า อนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกมาตรา 8 ว่าด้วยการปกป้องจากควันบุหรี่ระบุว่า “ควันบุหรี่มือสองเป็นสารก่อมะเร็ง ไม่มีระดับที่ปลอดภัยจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง” และ “การที่จะบรรลุสิทธิที่จะมีชีวิตและสิทธิที่จะบรรลุมาตรฐานสุขภาพที่ดีที่สุด เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน” ประเทศสมาชิกมีพันธะผูกพันที่ต้องทำให้มั่นใจได้ว่าจะคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากอันตรายของควันบุหรี่มือสองในที่สาธารณะ ที่ทำงาน ยานพาหนะ และสถานที่อื่น ๆ โดยไม่มีข้อยกเว้น












