’ชัชชาติ‘ ลงพื้นที่วชิรพยาบาล สั่งตั้งวอร์รูมประเมินสถานการณ์ เร่งอุดรอยรั่วอุโมงค์รถไฟฟ้า
’ชัชชาติ‘ ลงพื้นที่เหตุถนนทรุดหน้า วชิรพยาบาล เผย สถานีตำรวจสามเสน ไม่มีกำแพงกันดิน ส่งผลให้เป็นหลุมลึก เห็นเสาเข็มชัดเจน สั่งการ ตั้งวอร์รูมประเมินสถานการณ์ ห่วง ฝนตกซ้ำ ทำดินชะเพิ่ม
วันนี้ (24 ก.ย. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ถนนทรุดตัว บริเวณวชิรพยาบาล พร้อมเปิดเผยว่า จุดเกิดเหตุเป็นการก่อสร้างรถไฟรถไฟฟ้าสายม่วงใต้ ซึ่งที่เกิดเหตุ เป็นข้างบนสถานีโรงพยาบาลวชิร และสถานีนี้มีอุโมงค์ที่เดินมาเชื่อมกับสถานี ซึ่งมีสองอุโมงค์อุโมงค์ และอุโมงค์ล่าง มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 65 เมตร และจุดที่เกิดเหตุเป็นจุดที่อุโมงค์เจอกับสถานี และเป็นช่องว่างใหญ่ อุโมงค์เกิดความเสียหาย เหมือนกับมีรอยแตก จึงทำให้ดินไหลเข้าไปในอุโมงค์ และจะเห็นเลยว่า หากมองไปในอุโมงค์จะเห็นแสงสว่าง และดินไหลเข้ามาทำให้เกิดการสไลด์ และยุบตัวของดิน ดังนั้น ดินที่หายไป ก็ไหลลงไปในสถานี และมีท่อประปาแตกด้วย เนื่องจากมีท่อประปาใหญ่ เหมือนน้ำชะเข้าไปในสถานีด้วย
ขณะนี้สถานการณ์มีความนิ่งระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังมีการไหลตัวของดินบ้างเล็กน้อย และสั่งการประปาปิดน้ำ ทำให้การไหลตัวของดินน่าจะชะลอตัวลงได้ และให้การไฟฟ้ามาตัดไฟทั้งหมด และตัดสายไฟด้วย เนื่องจากกลัวว่าหากล้ม จะไปดึงที่อื่น และอาคารโดยรอบ อย่างอาคารวชิรพยาบาลไม่มีปัญหา เพราะมี กำแพงดินกั้นอยู่ แต่เพื่อความปลอดภัย จึงปิดเอาไว้ไม่ให้ใช้งาน แต่ที่มีปัญหาแน่ ๆ คือสถานีตำรวจนครบาลสามเสนอยู่ในจุดที่ไม่มีกำแพงกันดินเมื่อดินไหลไปก็จะเห็นเสาเข็มชัดเจน เมื่อช่วงเช้าได้สั่งการไป 7 ข้อ
1.หยุดจ่ายน้ำในบริเวณนี้ก่อน และนำน้ำจากจุดอื่น มาจ่ายน้ำให้คนในพื้นที่
2.ให้การไฟฟ้าดูเรื่องการตัดสายไฟ เพื่อไม่ให้ดึงล้มต่อไป
3.ผู้รับเหมา และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ต้องดูเรื่องการไหลของดินต่อ
4.ดูสถานการณ์โดยรอบ ความปลอดภัย และทาง กทม. เป็นผู้รับผิดชอบประเมินสถานการณ์
5.สั่งให้มอนิเตอร์ ติดตั้งกล้อง CCTV รอบพื้นที่ และติดตั้งตัวเคลื่อนการเคลื่อนที่ของดิน เพื่อให้รู้ว่าอะไรอันตราย
6.ประเมินอาคารโดยรอบอาคารใหญ่ เพื่อให้ความมั่นใจว่าจะเปิดให้บริการได้อย่างไร
7.เรื่องการจราจร ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ทุกคนดำเนินการ และสร้างศูนย์ประสานงานแล้ว และผู้อำนวยการเหตุ ก็เป็นผู้อำนวยการเขต และรองปลัด กทม. เพราะเป็นเรื่องงานวิศวกรรม
นายชัชชาติ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องผู้รับบาดเจ็บ และรถคงต้องลากออก หากตกลงไปก็จะวุ่นวายเรื่องน้ำมันต่าง ๆ พร้อมระมัดระวัง และคงใช้เวลาพอสมควร เหตุการณ์คล้าย ๆ กับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วที่อุโมงค์ในบึงหนองบอน มีลักษณะคล้ายกันเลย เพราะเป็นจุดรอยต่ออุโมงค์กับสถานี ดังนั้น สิ่งเร่งด่วนที่สำคัญที่สุดคือการอุดปิดรูตรงนี้ ซึ่งต้องให้ผู้รับเหมา และ รฟม. ช่วยหาทาง และอีกเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังคือเรื่องฝนตกที่อาจชะดินลงไปในช่อง และต้องหาวิธีดำเนินการอย่างไรเพื่อป้องกันการชะดิน
นายชัชชาติ ระบุว่า รัศมีความลึกที่ต้องเฝ้าระวังประมาณ 100 เมตร เนื่องจากหลุมลึก 50 เมตร ส่วนสี่แยกในบริเวณนี้คาดว่าจะเปิดได้ ส่วนอาคารต่าง ๆ โดยรอบที่ไม่มีกำแพงกันดิน ยังถือว่าเป็นจุดอันตราย หรือจุดเปราะบาง เพราะเราเห็นเสาเข็มเลย
นายชัชชาติ ระบุว่า กำแพงกันดินบริเวณวชิรพยาบาล เหลือเยอะ จริง ๆ แล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่เพื่อลดภาระเรื่องการเดินทาง เราจะหยุดให้บริการผู้ป่วยนอกก่อน แต่ผู้ป่วยใน เราก็ให้บริการตามปกติ เพราะการเคลื่อนย้ายจะลำบาก ซึ่งผู้ป่วยนอกจะให้ไปโรงพยาบาลอื่น ในขณะนี้คาดการณ์ว่า 2 วันตรงนี้ต้องหยุดก่อน และเดี๋ยวจะมีแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
นายชัชชาติ ระบุว่าสถานีนี้อุโมงค์เสร็จไปแล้ว 3 เดือน ทางอุโมงค์เชื่อมต่อเสร็จแล้ว คงทำผิวด้านบน ซึ่งต้องหาเหตุผลว่าจุดที่เกิดการเสียหายเกิดจากอะไร และบริเวณด้านใน ไม่ได้มีการทำอะไรแล้ว เพียงแต่จะต้องเสริมความแข็งแรงเพิ่ม แต่ยังไม่ได้ทำ
ส่วนท่อประปาจะแตกก่อน หรือจะแตกหลัง เรายังไม่รู้ ซึ่งถือเป็นสาเหตุไม่ได้ ต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง และเหตุการณ์นี้ กับเหตุการณ์ที่บึงหนองบอนก็พอ ๆ กัน แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องเรียนรู้ และปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น
ส่วนจะใช้เวลานานไหม นายชัชชาติ ระบุว่า คงนาน คงไม่ใช่ 1 – 2 วัน แต่ต้องเอาความปลอดภัยเป็นลำดับหนึ่ง ซึ่งจุดนี้ยังมีถนนที่ยังเบี่ยงไปทางอื่นได้ และยังบรรเทา และโชคดีที่โรงเรียนเพิ่งปิดไปทำให้สถานการณ์ไม่ได้แย่มาก














