อธิบดีกรมการปกครอง ลงพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบ ‘ส่วยสัญชาติ’
อธิบดีกรมการปกครอง ลงพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบ ‘ส่วยสัญชาติ’ ยัน ไม่ช่วยเหลือกัน หากพบเจ้าหน้าที่ปกครองผิดจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ลั่นหากพบยังทำอีก นายอำเภอต้องรับผิดชอบ
วันนี้ (23 ก.ย. 68) เวลา 11.00 น.นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วยนายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ที่ว่าการอำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี 29 ตุลาคม 2567 ให้ผู้มีสิทธิยื่นคำขอมีสถานะบุคคลและสัญชาติ และกรณีมีประชาชนร้องเรียนการเรียกรับเงินส่วยสัญชาติ จึงมาตรวจสอบและยืนยันว่าไม่สามารถเรียกรับเงินได้
อธิบดีกรมการปกครอง ได้ติดตามขั้นตอนการยื่นขอสถานะบุคคลทั้งกลุ่มขอใบถิ่นที่อยู่ถาวรและขอสัญชาติ ซึ่งตามมติ ครม.29 ต.ค.68 ได้ลดขั้นตอนการดำเนินการภายใน 5 วัน โดยที่อำเภอฝาง ได้ให้ประชาชนมายื่นคำขอ ตรวจสอบเอกสาร และการตรวจสอบประวัติอาชญากรของตำรวจ ก่อนนำเอกสารมายื่นเพื่อทำบัตรประจำตัว ซึ่งจะเสียค่าธรรมเนียมเพียง 160 บาท ทางอธิบดีกรมการปกครอง ได้สอบถามผู้มีสิทธิว่ามีผู้มาเรียกรับเงินค่าดำเนินการหรือไม่ ซึ่งผู้มีสิทธิ ตอบว่า ไม่มี พร้อมกำชับว่าไม่สามารถเรียกรับเงินได้ ขออย่าไปหลงเชื่อ หากพบก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่
อธิบดีกรมการปกครอง ยังได้ดูขั้นตอนการทำบัตรประจำตัว ซึ่งอ.ฝางได้รับงบกลางมาจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มเพราะมีผู้มีสิทธิกว่า 22,000 คน ผ่านมา 3 เดือนทำไปได้กว่า 8,221 คนแล้ว ซึ่งได้จัดคิวไว้เพียง 100 คนต่อวัน ให้เพียงพอกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมถึงตำรวจที่ต้องตรวจสอบประวัติอาชญากรรมด้วย อธิบดีกรมการปกครอง จึงสั่งการผ่านทางรองอธิบดีกรมการปกครอง ให้ยื่นของบกลางเพิ่มเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะในอำเภอที่มีจำนวนผู้มีสิทธิมาก อย่างจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มีสิทธิกว่า 88,000 คน

อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า การลงพื้นที่อำเภอฝางในวันนี้ พบว่ามีการจัดการระบบบในแต่ละวันไม่ให้แออัด ซึ่งยังเหลือเวลาเปิดให้ยื่นคำขอจนถึง 30 มิถุนายน 2569 จึงมีเวลาเพียงพอที่จะยื่นคำขอได้ทัน ไม่มีการปิดภายใน 30 กันยายน 2568 ตามที่มีการกล่าวอ้าง
“เชียงใหม่เป็นอำเภอชายแดน จึงมีผู้มีสิทธิจำนวนมาก จึงต้องเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ว่าจะต้องไม่ให้มีการเรียกรับเงิน ไม่ให้มีเหตุการณ์ที่ถูกหลอกเรียกรับเงิน ที่ผ่านมาถ้าพบเบาะแสให้เจ้งมาทางจังหวัด อย่างกรณีผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.แม่คะ อ.ฝาง ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงแล้ว แม้มีข่าวว่าจะลาออก ก็ไม่มีผล ยังต้องตรวจสอบต่อไป”
ส่วนกรณีมีประชาชนอยากแจ้งเบาะแสแต่ถูกข่มขู่ทำให้หวาดกลัว อธิบดีกรมการปกครองยืนยันว่า ที่นี่ประเทศไทยไม่มีใครมาขู่หรือมาบอกว่าไม่ปลอดภัยใดๆได้ ในการรักษาความสงบเรียบร้อยมีฝ่ายปกครอง ตำรวจดูแลอยู่ ตนได้กำชับทุกอำเภอ อย่าให้มีการข่มขู่ ว่าจะไม่ปลอดภัย จะดูแลผู้ให้ข้อมูล
“ผมได้กำชับไปแล้วเรื่องการเรียกรับเงิน ต้องไม่มีใครแอบทำ วันนี้ความลับไม่มี ถ้าแอบทำ นายอำเภอไม่รู้ สื่อก็รู้ ถ้าจริงก็ดำเนินการ ไม่เอาไว้ สั่งการกำชับ โปร่งใส ไม่มีโกง ไม่มีส่วย ได้กำชับทุกเดือน กรมการปกครอง เราให้บริการประชาชน ถ้ามีข้าราชการหรือบุคคลากรในส่วนไหน ทำผิดเราจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด”
อธิบดีกรมการปกครอง ยืนยันว่า ถ้านายอำเภอปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น นายอำเภอก็ไม่พ้นความรับผิดชอบอย่างแน่นอน และจะไม่มีการช่วยเหลือกัน หากทำผิดไม่มีช่วยอย่างแน่นอน













