‘เพื่อไทย’ เตรียมร่างแก้ไข รธน. หมวด 15 หวังรัฐสภาเลือก สสร.ทางอ้อม

พรรคเพื่อไทย เตรียมร่างแก้ไข รธน. หมวด 15 หวังรัฐสภาเลือก สสร.ทางอ้อม ยันไม่ฮั้วเหมือนเลือก สว. ยังไม่กำหนดคำถามประชามติล็อก หมวด 1-2 หรือไม่

วันนี้ (17 ก.ย. 68) นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังคณะทํางานพรรคเพื่อไทยหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า โดยสรุปเรามีการลงมติกันว่าเราจะมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แต่จะไม่ได้เลือกโดยตรง ใช้เป็นการเลือกโดยอ้อม แล้วให้สภาฯ มาคัดเลือก

สสร.จะมาจาก 2 ส่วน ส่วนแรกให้แต่ละจังหวัดไปเลือกตัวแทนที่ประสงค์จะมาเป็น สสร. จํานวน 200 คน ผ่านการสมัคร ซึ่งให้ยึดถือตามจำนวนดังกล่าว และมาให้รัฐสภาเลือกให้เหลือ 100 คน ซึ่งมีเงื่อนไขว่าน้อยที่สุดคือเลือกจังหวัดละหนึ่งคน เนื่องจากอาจจะมีการทุ่มเทบางจังหวัดที่เป็นฐานเสียงของรัฐบาล

เราคิดว่าควรมีตัวแทนจากองค์กรทั้งหลายในประเทศ ทั้งด้านประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วม เช่น น่าจะมีตัวแทนจากคณบดี คณะนิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาท้องถิ่น สภาทนายความ สื่อมวลชน ตัวแทนจากวิชาชีพทั้งหลาย ตัวแทนนิสิตนักศึกษาองค์กรต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยทั้งหลายเข้าร่วม สสร.ด้วย อย่างน้อย 30-40 คน และให้ สสร.ชุดนี้ ทําหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้สามารถไปตั้งคณะกรรมาธิการคัดเลือกผู้ที่มาความรู้ความสามารถเข้ามาร่วม คาดว่าจะตั้งไว้ประมาณ 140 คน ไม่อยากให้ใหญ่มาก ทั้งนี้คณะทำงานพรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้เลขาธิการฝ่ายกฎหมายไปยกร่าง โดยในวันที่ 19 ก.ย.นี้ เวลา 13.00 น. จะมีการนําร่างทั้งหมดมาดูกัน เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย และทําร่างนั้นเสนอ

สำหรับคําถามประชามติครั้งที่ 2 จะมีการกําหนดเรื่องหมวด 1 และหมวด 2 หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นแต่เพียงการเพิ่มหมวด 15 ว่าด้วยการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งหากหมวดนี้ทําสําเร็จแล้ว การจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นอย่างไร ก็ต้องเสนอร่างใหม่ทั้งหมด และเมื่อมีการทําประชามติแล้ว ก็จะถือว่าเป็นกฎหมายสมบูรณ์ในชั้นนี้ เพียงแต่กําหนดวิธีการ สาระสําคัญว่า เราจะทําอะไร และจะมี สสร.อย่างไร

ส่วนการเดินสายทําความเข้าใจกับ สว.นั้น เราไม่มีหน้าที่ไปทําความเข้าใจ เป็นหน้าที่ของ สว.ต้องคิดกัน พรรคไหนจะไปทําความเข้าใจก็ได้ แต่พรรคเพื่อไทยเราไม่ได้ตกลง เพียงแต่ขอความสนับสนุนว่าหากอยากให้จัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ช่วยมาโหวต เพราะต้องการเสียงอย่างน้อย 67 เสียงเป็นอย่างต่ำ หรือ 1 ใน 3

เราไม่อยากจะคิดว่า เราไปขอกัน ไปร้องกัน ให้เป็นดุลยพินิจ อํานาจหน้าที่ที่เราทํากัน เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ช่วยกันสนับสนุนหน่อย เพราะเราก็พยายามกันมานานแล้ว ทําให้มันสําเร็จได้หรือไม่ แค่นั้น ไม่ได้เดินสายอะไร

ส่วนเรื่องเสียง สว.ไม่พอ ก็อยู่ในความกังวลเหมือนกัน แต่เราก็ต้องทํา ทําแล้วก็ว่ากันไป ถึงเวลาก็รู้เอง ขณะที่ความกังวล สสร.จะเหมือนกับคดี ฮั้ว สว.หรือไม่นั้น การที่ประชาชนในจังหวัดเลือกกันมา ไม่มีเป็นกลุ่มอาชีพแบบ สว.เป็นคนละอย่างกัน สมมติเราอยู่จังหวัดนี้ มี สสร.ได้ตามจํานวนประชากร หากสนใจก็ไปสมัคร แล้วให้ประชาชนมาโหวตเลือกกัน เพียงแต่ยังไม่ได้เป็น สสร.ทันที ต้องให้รัฐสภาเลือกอีกครั้ง ย้ำว่า จุดใหญ่คือคิดว่าให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ใช่เรามาทํากันเอง เพราะเราอยากให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน จึงอยากให้มีส่วนร่วม

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยมีการคุยกันถึงไทม์ไลน์การทำร่างแรกแล้วเสร็จหรือไม่ เนื่องจากจะมีการปิดสมัยประชุม ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ นายชูศักดิ์ มองว่าช่วงปลาย ก.ย.นี้ หรือตอนต้น ต.ค.68 เราก็สามารถเสนอได้ เพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม เพียงแต่ช่วงปลายตุลาคมที่จะปิดสมัยประชุมนั้น รัฐสภามีหน้าที่อย่างน้อย คือตั้งคณะกรรมาธิการไว้ก็ได้ เพื่อให้คณะกรรมาธิการทํางาน ให้ สสร.ทํางานได้ เพื่อที่ร่างจะได้แล้วเสร็จ เมื่อเปิดสมัยแล้วจะได้มาโหวตกันได้

อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยจะมีการพูดคุยกับพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยเรื่องที่มา สสร.โดยในช่วงบ่ายวันนี้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาชน ก็นัดตนเองไว้ น่าจะนั่งคุยกันอยู่ในสภาฯ ว่าจุดยืนของเราเป็นอย่างนี้ สำหรับกรณีการตัดอํานาจ สว.บางส่วน ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องรายละเอียด ว่าคุณจะทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างไร ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง เพราะท้ายที่สุด ก็ต้องเสนอร่างเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากเสนอหมวด 15/1 ต้องค่อยไปคิดกันตอนนั้น

เมื่อถามว่า หากในชั้นกรรมาธิการ รับทั้ง 3 ร่าง ต้องมีการตกลงกันว่า จะใช้ร่างใดเป็นร่างหลัก หรือไม่ นายชูศักดิ์ เข้าใจว่า คงไม่ต่างอะไรกันมาก