‘มาริษ’ สายตรง ‘เลขาธิการ UN – รมว.กต.ญี่ปุ่น’ ขอใช้กลไก ‘ออตตาวา’ สอบสวนกัมพูชาละเมิดอนุสัญญา
‘มาริษ’ สายตรง ‘เลขาธิการ UN – รมว.กต.ญี่ปุ่น’ ขอใช้กลไก ‘ออตตาวา’ สอบสวนกัมพูชาละเมิดอนุสัญญา ขอ ‘มาเลเซีย-สิงคโปร์’ กดดันกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เมิน กต.กัมพูชา ฟ้อง UNSC อีกรอบ ชี้หลักฐานไม่มี
วันนี้ (13 ส.ค. 68) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการดำเนินการหลังทหารพรานประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลพื้นที่ช่องจุบตะโมก จ.สุรินทร์ วานนี้ (12 ส.ค.) ว่าได้โทรศัพท์หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นจะเป็นประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อขอให้ใช้กลไกในกรอบอนุสัญญาออตตาวาไต่สวนการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเลขาธิการของอนุสัญญาออตตาวามีหนังสือตอบกลับมาแล้ว
ทั้งนี้ วันที่ 15 ส.ค. จะมีการพูดคุยกับประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา เพื่อให้เห็นการดำเนินการของกัมพูชา โดยเฉพาะในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ซึ่งไทยเสนอเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แต่กัมพูชากลับปฏิเสธ พร้อมยังได้โทรศัพท์พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อขอให้ใช้กลไกอาเซียนกดดันให้กัมพูชาร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด
นายมาริษ เปิดเผยว่า ในห้วงการเดินทางเยือนนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้พบเลขาธิการสหประชาชาติ และรัฐมนตรีของญี่ปุ่นแล้ว และได้ประท้วงท่าทีความไม่จริงใจของกัมพูชาต่อทั้ง 2 บุคคล และในโอกาสต่าง ๆ เสมอมา
ส่วนกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเรียนต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และเลขาธิการ UN เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าฝ่ายไทยละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศ ข้อตกลงทวิภาคี และเงื่อนไขการหยุดยิงที่ตกลงกันไว้ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด แต่ฝ่ายไทยมีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับการยั่วยุของกัมพูชา และการวางทุ่นระเบิด และที่สุด UNSC ก็ไม่ได้ประชุมเรื่องนี้อีกครั้งแต่อย่างใด












