อดีตที่ปรึกษา WHO ไม่เห็นด้วยสอบใบขับขี่ออนไลน์ ชี้ ไม่ลดอุบัติเหตุ
อดีตที่ปรึกษา WHO ไม่เห็นด้วย สอบใบขับขี่หรือต่อใบอนุญาตแบบออนไลน์ สะท้อนกฎหมายจราจรอ่อนแอ ชี้ หลักสูตรแบบเร่งรัดไม่ได้ลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุชัดเจน แนะ ใช้ระบบใบขับขี่แบบขั้นบันได
พญ.ชไมพันธุ์ สันติกาญจน์ อดีตที่ปรึกษาด้านป้องกันการบาดเจ็บและภาวะพิการประจำองค์การอนามัยโลกภาคพื้นเอเชียอาคเนย์ ในฐานะหัวหน้าโครงการขับเคลื่อนไทยปลอดจากภัยจักรยานยนต์ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการสอบใบขับขี่ระบบออนไลน์ที่ใช้การอบรมเพียง 1 ชั่วโมงต่อใบอนุญาตขับขี่ได้ ขณะที่ต่อใบขับขี่หรือใบอนุญาตขับรถขนส่ง อบรมออนไลน์ 2 ชั่วโมง ใบขับขี่หรือใบอนุญาตขับรถสาธารณะ อบรมออนไลน์ 3 ชั่วโมง และกรณีใบขับขี่หรือใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวสิ้นอายุเกิน 3 ปี เพิ่มเวลาอบรมอีก 1 ชั่วโมง สะท้อนว่ากฎหมายจราจรและขนส่งของไทยอ่อนแอสุด
พญ.ชไมพันธุ์ เปิดเผยว่า มีงานวิจัยจำนวนมากระบุตรงกันว่า โปรแกรมการฝึกอบรมการขับขี่รถจักรยานยนต์แบบวันเดียว ไม่ได้ส่งผลเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อการลดอุบัติเหตุในระยะยาวในกลุ่มวัยรุ่น ขณะที่งานวิจัยแบบสุ่มควบคุมในออสเตรเลีย โดย IVERS ET AL. ปี 2016 พบว่า หลักสูตรอบรมความปลอดภัย 4 ชั่วโมงสำหรับเยาวชน ไม่ได้ผลในการลดอุบัติเหตุ หรือจำนวนใบสั่งภายใน 12 เดือนหลังอบรม บางกรณีผู้เข้าอบรมรมกลับมีพฤติกรรมขับรถเร็วมากขึ้น
พญ.ชไมพันธุ์ ระบุว่า องค์การอนามัยโลกชี้ว่าหลักสูตรอบรมแบบเร่งรัดมักไม่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนในการลดอุบัติเหตุในกลุ่มวัยรุ่น เทียบเท่ากับหลักสูตรระยะยาว หรือระบบใบอนุญาตแบบแบ่งชั้นที่ใช้ในการออกใบอนุญาตขับขี่ให้กับผู้ขับขี่มือใหม่ โดยแบ่งช่วงชั้นของใบอนุญาตตามประสบการณ์และอายุของผู้ขับขี่เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
พญ.ชไมพันธุ์ ชี้ว่า แทนที่จะอบรมแบบเร่งรัด หรือสอบใบขับขี่แบบออนไลน์ งานวิจัยทั่วโลกแนะนำให้ยืดอายุการเริ่มขับขี่ออกไป ก่อนสอบใบขับขี่ต้องไปเรียนการขับขี่ และสอบใบขับขี่ตามเกณฑ์อายุ ให้ทุกประเทศใช้ระบบใบขับขี่แบบเป็นขั้นบันไดที่มีข้อจำกัด เช่น ให้ขี่เฉพาะรถจักรยานยนต์ที่ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผู้ปกครองต้องเป็นผู้ฝึกขับขี่ด้วยตนเองบนถนน ห้ามขับกลางคืน ห้ามมีคนซ้อนท้ายยกเว้นผู้ปกครองที่ฝึกขับขี่ให้ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ และหลังจาก 1-2 ปี ถ้าไม่ทำผิดกฎหมายจราจรจึงเลื่อนไปสอบใบขับขี่ 5 ปีได้












