เปิดแผนฉีดไฟเซอร์ให้เยาวชน 12-17 ปี

ศบค. ชุดใหญ่ คงระดับพื้นที่สถานการณ์ และคงมาตรการเดิมถึง 30 กันยายน 64 มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อ ติดตามมาตรการที่กำหนด พร้อมเปิดแผนการจัดสรรควัคซีน 24 ล้านโดส ช่วง 27 กันยายน – 31 ตุลาคม 2564 เตรียมฉีดไฟเซอร์ให้นักเรียน อายุ 12-17 ปีทั่วประเทศ

นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงข่าวสรุปการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ประจำวันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 โดยที่ประชุมเห็นชอบ

• คงระดับพื้นที่สถานการณ์ตามเดิม
• ให้คงมาตรการป้องกันควบคุมโรคตามระดับพื้นที่สถานการณ์ตามข้อกำหนดฉบับที่ 32 ถึง 30 กันยายน 2564 โดยยังคงมาตรการเคอร์ฟิว การทำงานจากที่พัก และเพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมกำกับตามมาตรการ COVID Free Setting มาตรการควบคุมแบบบูรณาการในการปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆ และสื่อสารให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention

พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ ศปก.ศบค. กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับดูแลผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กรุงเทพมหานคร ติดตามกำกับมาตรการที่กำหนด

นอกจากนี้ โฆษก ศบค. ยังเปิดเผยว่าในช่วงปลายเดือน กันยายน – เดือนตุลาคม 2564 จะมีวัคซีนที่จัดส่งถึงไทย รวมทั้งสิ้น 24 ล้านโดส เป็นซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตร้าเซเนก้า 10 ล้านโดส และไฟเซอร์ 8 ล้านโดส โดยมีวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์มเพิ่มเติมอีก 6 ล้านโดส

โดยแนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ของไทย จะเป็นการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ซิโนแวค และแอสตร้าเซเนก้า เป็นสูตรหลัก ใช้ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกกลุ่ม และใช้วัคซีนชนิดเดียวกัน 2 เข็มในกลุ่มอายุ 12-17 ปี (ไฟเซอร์) และกลุ่มที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป (แอสตร้าเซเนก้า) และสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปยังประเทศปลายทางที่กำหนดวัคซีน ส่วนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับผู้ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม จะใช้วัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเป็นเข็มที่ 3 โดยเริ่มดำเนินการในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แล้ว

สำหรับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับผู้ที่มีอายุ 12-17 ปี มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน นักศึกษาที่ศึกษาในระดับ ม.1-6 หรือ ปวช./ปวส. หรือเทียบเท่า ให้บริการผ่านสถาบันการศึกษา และหากนักเรียนนักศึกษาในสถาบันนั้นๆ มีอายุเกิน 18 ปีให้รับวัคซีนได้โดยอนุโลม