‘พล.อ.ณัฐพล’ โต้รัฐบาลทำงานช้า ปมทุ่นระเบิด แจงต้องทำสำนวนให้รัดกุม เตรียมส่งข้อมูลถึงผู้สนับสนุนกัมพูชา
วันนี้ (21 ก.ค. 68) พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงถึงการดำเนินการตอบโต้กัมพูชากรณีทุ่นระเบิดที่ช่องบก โดยโต้เสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลทำงานล่าช้า โดยยืนยันว่าจำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานให้รัดกุมเพื่อไม่ให้กัมพูชาโต้แย้งได้ ซึ่งจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของไทย พร้อมเปิดเผยแนวทางการประท้วงหลายช่องทาง
พล.อ. ณัฐพล เปิดเผยผลการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบทุ่นระเบิดเพิ่มเติมอีก 7-8 ทุ่น เป็นชนิด PMN-2 ซึ่งผลิตในรัสเซียและกองทัพไทยไม่เคยมีใช้ อีกทั้งยังมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นการลอบวางใหม่ อาทิ ร่องรอยการกลบเกลื่อนที่ยังใหม่ และชิ้นส่วนโลหะที่ยังไม่ขึ้นสนิม ซึ่งหลักฐานที่ชัดเจนเหล่านี้จำเป็นต่อการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
รมช.กลาโหมกล่าวว่า การดำเนินการทางการทูตไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เนื่องจากที่ประชุมอนุสัญญาออตตาวาจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม การทำสำนวนให้รัดกุมจึงสำคัญกว่า โดยศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้วางแนวทางไว้ 3 ด้าน คือ 1. ทำหนังสือประท้วงรัฐบาลกัมพูชาโดยตรง 2. ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการอนุสัญญาออตตาวา และ 3. แจ้งข้อมูลไปยังประเทศผู้สนับสนุนเงินทุนให้กัมพูชาในพันธกรณีที่เกี่ยวกับอนุสัญญาดังกล่าว โดยชี้ว่ากัมพูชาทำผิดอนุสัญญาอย่างน้อย 2 ข้อ คือการวางทุ่นระเบิดใหม่ และการยังคงครอบครองทุ่นระเบิดไว้
ส่วนการจัดการสถานการณ์ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ได้มีการตกลงกับฝ่ายกัมพูชาให้มีทหารในพื้นที่ได้ฝ่ายละ 7 นาย เพื่อป้องกันเหตุการณ์วุ่นวาย พร้อมกันนี้ พล.อ. ณัฐพล ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่จริงใจของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่กล่าวว่าจะใช้กระบวนการเจรจา แต่กลับปล่อยให้มีมวลชนเข้ามากดดันในพื้นที่












