AROUND THAILAND

ปภ. แจ้งเตือน 52 จังหวัดทั่วไทย เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน 23–27 พ.ค. 68

วันนี้ (22 พ.ค. 68) เวลา 17.45 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ช่วงวันที่ 23–27 พ.ค. 68

กรมอุตุนิยมวิทยามีประกาศฉบับที่ 1 (121/2568) ลงวันที่ 21 พ.ค. 68 แจ้งว่าช่วงวันที่ 23-27 พ.ค. 68 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมจะพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้

นอกจากนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) มีประกาศฉบับที่ 5/2568 ลงวันที่ 20 พ.ค. 68 แจ้งเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมือง รวมถึงเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังดังนี้

ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน (อ.แม่ลาน้อย แม่สะเรียง และสบเมย) เชียงใหม่ (อ.แม่อาย เชียงดาว พร้าว แม่แตง สะเมิง และอมก๋อย) เชียงราย (อ.เมือง แม่สาย ขุนตาล เชียงของ ดอยหลวง แม่จัน แม่ลาว และเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อ.เมือง) ลำปาง (อ.เกาะคา และสบปราบ) พะเยา (อ.ปง) แพร่ (อ.ลอง วังชิ้น และสูงเม่น) น่าน (อ.เชียงกลาง ท่าวังผา ทุ่งช้าง บ่อเกลือ ปัว ภูเพียง แม่จริม เวียงสา และสองแคว) อุตรดิตถ์ (อ.น้ำปาด และบ้านโคก) ตาก (อ.ท่าสองยาง พบพระ วังเจ้า และอุ้มผาง) สุโขทัย (อ.ศรีสัชนาลัย และสวรรคโลก) กำแพงเพชร (อ.ลานกระบือ) พิษณุโลก (อ.ชาติตระการ นครไทย และบางระกำ) เพชรบูรณ์ (อ.หล่มเก่า) และอุทัยธานี (อ.บ้านไร่)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ เลย (อ.ภูกระดึง ภูเรือ ภูหลวง และวังสะพุง) หนองคาย (อ.เมือง และโพนพิสัย) บึงกาฬ (อ.เซกา และบึงโขงหลง) อุดรธานี (อ.บ้านผือ และเพ็ญ) สกลนคร (อ.เมือง โคกศรีสุพรรณ เต่างอย โพนนาแก้ว ภูพาน และอากาศอำนวย) นครพนม (อ.นาแก นาทม นาหว้า บ้านแพง และศรีสงคราม) ชัยภูมิ (อ.เมือง เกษตรสมบูรณ์ คอนสวรรค์ และคอนสาร) ขอนแก่น (อ.บ้านแฮด ภูผาม่าน แวงน้อย และแวงใหญ่) มหาสารคาม (อ.กุดรัง โกสุมพิสัย บรบือ พยัคฆภูมิพิสัย และยางสีสุราช)

กาฬสินธุ์ (อ.กุฉินารายณ์ ดอนจาน และร่องคำ) มุกดาหาร (อ.เมือง ดงหลวง นิคมคำสร้อย และหนองสูง) ร้อยเอ็ด (อ.พนมไพร โพธิ์ชัย โพนทอง เมยวดี สุวรรณภูมิ เสลภูมิ และหนองพอก) ยโสธร (อ.เมือง กุดชุม ค้อวัง ทรายมูล และเลิงนกทา) อำนาจเจริญ (อ.เมือง ชานุมาน ปทุมราชวงศา พนา และลืออำนาจ) นครราชสีมา (อ.ปากช่อง และวังน้ำเขียว) ศรีสะเกษ (อ.เมือง ขุนหาญ และราษีไศล) และอุบลราชธานี (อ.เมือง นาจะหลวย และวารินชำราบ)

ภาคกลาง 10 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี (อ.ทองผาภูมิ ไทรโยค ศรีสวัสดิ์ และสังขละบุรี) ราชบุรี (อ.บ้านคา) นครนายก (อ.เมือง ปากพลี และบ้านนา) ปราจีนบุรี (อ.เมือง ประจันตคาม กบินทร์บุรี และนาดี) สระแก้ว (อ.ตาพระยา) ฉะเชิงเทรา (อ.เมือง และบ้านโพธิ์) ชลบุรี (อ.บางละมุง พนัสนิคม และพานทอง) จันทบุรี (อ.เมือง ขลุง ท่าใหม่ นายายอาม และแหลมสิงห์) ตราด (อ.เมือง เขาสมิง คลองใหญ่ บ่อไร่ และแหลมงอบ) และเพชรบุรี (อ.แก่งกระจาน)

ภาคใต้ 10 จังหวัด ได้แก่ จ.ชุมพร (อ.เมือง ท่าแซะ ละแม สวี และหลังสวน) สุราษฎร์ธานี (อ.ชัยบุรี บ้านตาขุน บ้านนาสาร และพนม) นครศรีธรรมราช (อ.เมือง ท่าศาลา และพรหมคีรี) สงขลา (อ.สะเดา และสะบ้าย้อย) ยะลา (อ.บันนังสตา เบตง และยะหา) นราธิวาส (อ.จะแนะ แว้ง และสุไหงปาดี) ระนอง (อ.เมือง ละอุ่น และสุขสำราญ) พังงา (อ.เมือง กะปง เกาะยาว คุระบุรี ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) และจ.กระบี่ (อ.คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอ่าวลึก)

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ ลำพูน น่าน แพร่ พะเยา สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ หนองคาย สกลนคร ชัยภูมิ มุกดาหาร นครพนม นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สระแก้ว ชลบุรี ตราด สุพรรณบุรี สระบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) ประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า

สำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด ติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยรายพื้นที่ได้ที่แอปฯ “THAI DISASTER ALERT” รวมถึง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews หากได้รับความเดือดร้อน แจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” เพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

Related Posts

Send this to a friend