FOOD - DRINK

EAT DIARY: ‘Take A Breath’ พักหายใจในบรรยากาศเขาใหญ่ในกรุงฯ

‘Take A Breath’ พักหายใจในบรรยากาศเขาใหญ่ในกรุงฯ

ท่ามกลางความร้อนของอากาศ และสถานการณ์ต่างๆ รอบตัว จะดีกว่าไหมถ้ามีที่ได้เราได้ ‘พักหายใจ’ ใกล้ๆ บ้าน Take A Breath ชาร์จพลังบวก และพลังงานจากธรรมชาติใกล้ๆ ตัว และบรรยากาศสุด ‘สบายใจ’ ก่อนกลับไปสู้ต่อ

‘Take A Breath Cafe & Eatery’ เป็นร้านอาหาร และคาเฟ่ บรรยากาศเขาใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่แถวพุทธมณฑลสาย 1 ด้วยบรรยากาศ และการตกแต่งที่ทำให้เหมือนหลุดเข้ามาสู่โลกของการพักผ่อน ให้คุณได้หยุด และสูดหายใจรับพลังบวกเข้าไปเต็ม ๆ ท่ามกลางสวนสวยสไตล์ยุโรปที่ตกแต่งอย่างร่มรื่น พร้อมด้วยมุมถ่ายรูปมากมายถูกใจสายคาเฟ่ และสายโซเชียลอย่างแน่นอน

บรรยากาศภายนอก

ดึงดูดสายตาตั้งแต่เลี้ยวรถเข้ามาจอดกับตัวอาคารด้านหน้า ดอกหญ้าที่เรียงรายข้างทางเดิน ต้นไม้เขียวๆ กับบรรยากาศดี ๆ ที่ถูกตกแต่ง และดูแลอย่างตั้งใจ เรียกได้ว่าสบายใจตั้งแต่ก้าวเข้ามาในบริเวณร้าน ซึ่งภายในแบ่งออกเป็นสัดส่วนเหมาะกับความชอบที่หลากหลาย

โซนร้านอาหาร ที่เป็น Glass House ให้ได้รับประทานอาหารไป มองวิวรอบตัวไปแบบเย็น ๆ ชิลล์ ๆ ให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม โดยมีที่นั่งทั้งบริเวณชั้นล่างในรูปแบบโซฟา โต๊ะ และโต๊ะกลมสำหรับเพื่อนฝูงและครอบครัว และชั้นลอยที่ให้คุณแวะถ่ายภาพกับบันไดโค้งได้อีกหลายช็อตก่อนขึ้นไปรับประทานอาหาร

โซนคาเฟ่ สำหรับผู้ที่อยากมาละเลียดกาแฟ หรือเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ และทานขนมเค้ก และเบเกอรี่หลากหลายของร้าน นั่งชมบรรยากาศสนามหญ้าสวย ๆ กับสนามเด็กเล่นเล็ก ๆ

โซนเอาท์ดอร์ สนามหญ้า และเนินริมน้ำที่ไม่บอกไม่มีใครรู้ว่าที่นี่อยู่แค่ในกรุงเทพฯ เพราะทั้งร่มรื่น เขียวขจี และน่านั่งสุด ๆ ในช่วงเย็น ๆ แดดร่มลมตก คงทำให้คนหลงรักโซนนี้ได้ไม่ยากนัก ที่สำคัญ โซนนี้เป็น Pet Friendly ด้วย

เมนูเด็ดต้องลอง
นอกจากบรรยากาศแล้ว ขึ้นชื่อว่าเป็น Eatery อาหารต้องดีด้วย! ที่นี่บริการทั้งอาหารไทย อาหารตะวันตก และฟิวชันหลากหลายเมนู

เราเปิดมื้อนี้กันด้วยพิซซ่าโฮมเมดของทางร้าน ทำกันสด ๆ ในครัวเปิดด้านหน้าของร้านนี่เอง Truffle Pizza โดดเด่นด้วยแป้งพิซซ่าสไตล์อิตาเลี่ยน และกลิ่นทรัฟเฟิลหอมแตะจมูก สนนราคาถาดนี้ 380 บาท พวกเราลงความเห็นกันว่าถาดนี้ “รสชาติสุภาพมาก” หากใครชอบแนวจัดจ้าน อาจต้องเติมเครื่องปรุงอีกหน่อยจะโดนใจ

ตามมาด้วยอาหารไทยที่ยอดเยี่ยมทั้งวัตถุดิบ และการปรุงอย่าง กุ้งแม่น้ำเผา ตัวโต เผามาแบบมันเยิ้มมมม เสิร์ฟคู่น้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บซี้ดถึงใจ เพียงแค่ตักมันกุ้งราดลงบนข้าวหอมมะลิหุงสวย ๆ แบบเรียงเม็ด ราดน้ำจิ้มอีกนิด ฟินแบบไม่ต้องไปถึงอยุธยากันเลย ช่วงที่เราไปมีโปรโมชั่น กุ้งแม่น้ำเผาเพียงตัวละ 199 บาทเท่านั้นจากราคาปกติ 290 บาท ถูกใจสายกุ้งยิ่งนัก

ตามมาด้วยอีกหนึ่งเมนูแนะนำของร้าน ปลากะพงทอดราดน้ำปลา เสิร์ฟพร้อมยำมะม่วง และน้ำจิ้มซีฟู้ด ความพอดีของเมนูนี้ คือการทอดปลาได้กรอบถึงใจ และรสชาติน้ำยำมะม่วงที่ไม่หนักไป ไม่เบาไป เหลือพื้นที่ไว้ให้คนชอบน้ำจิ้มซีฟู้ดเติมเข้าไปเพิ่ม เราได้จานนี้มาในราคาโปรโมชั่น (อีกแล้ว) ตัวละ 199 บาท (จาก 395 บาท)

เสริมด้วยเมนูติดดาวของร้านอย่าง หมูสามชั้นคั่วเกลือ ที่อร่อยสมคำร่ำลือ เพราะทอดหมูสามชั้นได้กรอบแต่ไม่แข็ง คั่วกับเกลือ และกระเทียมกรอบรสชาติลงตัวไม่ต้องปรุง ไม่ต้องอะไรทั้งนั้น ตักใส่ปากแล้วฟินได้ทันที แป๊บเดียวหายเกลี้ยงหมดจาน เหมาะเป็นทั้งกับข้าว และกับแกล้มจริง ๆ จานนี้ 235 บาท ถูกใจใช่เลย!


และด้วยความกลัวว่าจะไม่ครบ 5 หมู่ เราเสริมมื้ออาหารนี้ด้วย ผัดผักรวม ราคา 160 บาท ไม่รู้ว่าเพราะเป็นผัก หรือเพราะเราเลือก combination อาหารที่มีรสชาติจัดจ้านเป็นหลัก ทำให้จานนี้เบาไปแบบเห็นได้ชัด ครั้งหน้าคงต้องเป็นผัดผักบุ้งไฟแดงให้แซ่บสูสีกับเพื่อน ๆ ดีกว่า

จบโซนร้านอาหารไปแบบอิ่มฟิน แต่เรายังมีพื้นที่ให้กับของหวาน และเครื่องดื่มเสมอ … ไปกันต่อ …

เปิดกันด้วยสายเขียว เอ้ยชาเขียว กับ Brownie Matcha Mousse cake (170 บาท) และสายเปรี้ยว Lemon Cream Cheese Cake (170 บาท) ตามคำแนะนำของพนักงาน ซึ่งส่วนตัวขอหักคะแนนความแห้งของเนื้อชีสเค้ก และบราวนี่ แม้จะถูกใจรสชาติที่ไม่หวานเกินไป แต่ด้วย Texture ของเนื้อขนมยังไม่ลงตัวนัก ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตู้แช่ หรืออายุของน้อง แต่คราวหน้าจะลองกลุ่ม Pastry บ้างว่าจะถูกใจกว่าหรือไม่

สำหรับเครื่องดื่ม เราสั่ง Signature เมนูมาลอง 3 เมนู คือ Tiramisu Latte (170 บาท) Sleepless Orange (160 บาท) และ Lychee Rose Shot (160 บาท) ซึ่งในส่วนของ ทิรามิสุ นั้น ความมัน และรสชาติทำได้ดีพอสมควร ส่วนอีก 2 แก้ว น่าจะถูกใจสาว ๆ เพราะมีความหอมสดชื่นทั้งคู่ แต่ถ้าใครไม่ชอบหวานลองขอลดหน่อย น่าจะถูกใจกว่า

โดยสรุปแล้ว อาหารถูกใจมาก ราคาไม่แรง ส่วนเครื่องดื่มและขนมราคาค่อนข้างแรงถ้าเทียบกับอาหาร แต่ถ้าเทียบกับกลุ่มคาเฟ่ด้วยกัน นับว่าราคาอยู่ในเกณฑ์ปกติแต่ได้บรรยากาศสวย ๆ สบาย ๆ แถมมาก็นับว่าคุ้มอยู่

การเดินทาง

ร้าน Take A Breath ตั้งอยู่บนถนนบางเชือกหนัง สามารถเข้าได้ทั้งจากบริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 1 และถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือการใช้รถยนต์ส่วนตัว มีที่จอดรถรองรับได้จำนวนมาก ปักหมุดตามนี้ได้เลย https://maps.app.goo.gl/5wLCJ156nBTTyStE9 หรือ PCXF+GM หรือ PCXF+GM กรุงเทพมหานคร

โซนคาเฟ่ เปิดทุกวัน 08.00-19.00 น. ส่วนโซนร้านอาหาร เปิด 11.00 – 22.00 น. สอบถามได้ที่เบอร์ 093 583 7079 หรือ https://www.facebook.com/takeabreathbkk

In Brief:

บรรยากาศ: คาเฟ่สไตล์เขาใหญ่ บรรยากาศ Homey ชิลล์ ๆ เหมาะกับคนที่อยากมานั่งพักหายใจอย่างแท้จริง

มุมถ่ายรูป: หลากหลาย สวย ทั้งโซนเอาท์ดอร์ และภายในร้าน

เมนูต้องลอง: กุ้งแม่น้ำเผา ปลากะพงทอดน้ำปลา หมูสามชั้นคั่วพริกเกลือ

พิกัดความอร่อย: ถนนบางเชือกหนัง พุทธมณฑลสาย 1

Related Posts

Send this to a friend