‘ภูมิธรรม’ เร่ง สมช.ส่งการบ้านกำหนดยุทธศาสตร์แก้ปัญหาชายแดนใต้
‘ภูมิธรรม’ เตรียมนำถก สมช. หลังลงพื้นที่ชายแดนใต้วานนี้ เร่ง สมช.ส่งการบ้านกำหนดยุทธศาสตร์แก้ปัญหาพื้นที่ ปัดโทษหน่วยงาน 20 ปีดับไฟใต้ไม่ได้
วันนี้ (17 ม.ค. 68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ของนายกรัฐมนตรีว่า ในฐานะที่ดูแล กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ สมช. ได้มองเห็นอะไรในหลายมิติ ซึ่งจะนำมาสะท้อนต่อที่ประชุม สมช. สอดรับกับคำสั่งการของตนเองที่อาจจะต้องมานั่งคิดใหม่ว่า 20 ปีที่ผ่านมา กระบวนการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้มีอะไรที่ถูกหรือผิดบ้าง เพื่อที่จะสามารถกำหนดอะไรใหม่ ๆ ได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ช่วงสิ้นเดือน ม.ค.จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง หลังจากที่ให้การบ้านไปศึกษาทำความเข้าใจ และวานนี้ (16 ม.ค.) ได้พูดคุยกับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งจะเป็นข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นในการตัดสินใจว่าจะจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ในภาคใต้อย่างไรให้สอดรับกับสถานการณ์
ส่วนกระบวนการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้จะเดินหน้าต่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์ที่จะกำหนดหลังจากนี้ ถ้ามีการกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่จะต้องหาคณะทำงานให้สอดรับกัน ซึ่งมีคำถามว่าการเจรจาของฝั่งคู่เจรจามีอำนาจเต็มจริงหรือเปล่า เพราะระหว่างพูดคุย ความรุนแรงยังเกิดขึ้นอยู่เสมอ หากเราจะพูดคุยกันก็ต้องพยายามยุติความรุนแรง เวลานี้ฝ่ายทหารไม่ได้ไปรุกทำร้ายอะไร เพียงแต่รักษาสถานการณ์ป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิด หากการเจรจาเดินหน้าไปแต่เหตุร้ายยังเกิดขึ้น ถ้าเป็นเช่นนี้ประโยชน์ถือว่าน้อย ย้ำว่าจะยังไม่พิจารณาอนุมัติอะไรจนกว่าจะมียุทธศาสตร์ก่อน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่ระบุว่า 20 ปีไม่มีอะไรคืบหน้า หมายความว่าโดยภาพรวมเหตุยังเกิดไม่สามารถยุติได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกหน่วยงานมีปัญหา ส่วนหน่วยงานใดจะมีปัญหาบ้างก็ขึ้นอยู่กับการทบทวนว่าการบูรณาการทำได้จริงหรือไม่ แต่ละหน่วยทำงานเหมาะสมหรือสอดรับกันหรือไม่ ย้ำว่าต้องทบทวนทั้งหมด อย่าเพิ่งไปดูว่าเรากำลังตำหนิหน่วยงานใด
นายภูมิธรรม ยังระบุว่า ที่ประชุม สมช.วันนี้ จะหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เน้นย้ำว่าการพูดคุยจะต้องเป็นวาระสม่ำเสมอไม่ใช่รอเป็นเดือนเป็นปี ซึ่งพยายามให้ฝ่ายนโยบาย และฝ่ายปฏิบัติพูดคุยกันให้มากขึ้น เพื่อเร่งบูรณาการงานร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาบูรณาการเป็นเพียงการเอาข้อมูลมาทำงานร่วมกันซึ่งไม่ใช่การแก้ไขปัญหา
