นายกฯ เผย สั่งการกระทรวงที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางแก้ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 พร้อมอนุมัติหลักการแก้ปัญหาสัญชาติ และสถานะชาติพันธ์
วันนี้ (29 ต.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า สั่งการให้ นายประเสริฐจันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ซึ่งต้องเตรียมตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าจะทำอะไรบ้าง เพราะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว รวมไปถึงปัญหาภาคการเกษตร ว่าจะมีมาตรการอย่างไรบ้าง อย่างการไม่รับซื้อข้าวโพด อ้อย จากการเผาทั้งใน และต่างประเทศ รวมถึงปัญหาฝุ่นควันจากรถยนต์ และภาคอุตสาหกรรม โดยได้ขอความร่วมมือไปยังกระทรวงต่าง ๆ อย่างกระทรวงคมนาคม ให้ตรวจจับรถยนต์เข้มงวดมากยิ่งขึ้น แล้วกระทรวงคมนาคม ให้ออกมาตรการควบคุมโรงงานที่รัดกุมมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติในหลักการ ตามที่ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เสนอหลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร เนื่องจากปัจจุบันพบว่า มีชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชาติพันธุ์ อยู่ในไทย จำนวนทั้งสิ้น 825,635 ราย แต่ยังเหลือบุคคลที่รอการพิจารณาสถานะอยู่ จำนวน 483,626 ราย ทางสมช.จึงขออนุมัติหลักเกณฑ์ โดยยึดกรอบและกลุ่มเป้าหมายตามเดิม แต่เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ เพื่อให้การดำเนินงานในภาพรวมให้เร็วขึ้นจากเดิมดำเนินการภายใน 270 วัน เปลี่ยนเป็น 5 วันแทน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง โครงการ Thailand Winter Festival ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติให้มาเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ของประเทศไทยรัฐบาล ได้ย้ำเตือน และพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะตำรวจท่องเที่ยว หน่วยงานปกครอง ให้มีการจับไกด์เถื่อน ดูเรื่องความสะอาด ระบบขนส่งสาธารณะให้ดี และยุติธรรม
