POLITICS

‘นิกร’ เผย 1 ต.ค.นี้ ร่าง กม.ประชามติเข้าที่ประชุมวุฒิสภา

ไม่ทราบ สว. มีใบสั่งหรือไม่ ชี้ หากตีตก จะทำให้ล่าช้า 6 เดือน หวั่น ทำประชามติครั้งแรกไม่ทัน

วันนี้ (23 ก.ย. 67) นายนิกร จำนง เลขานุการกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายประชามติ ระบุว่า ขณะนี้กฎหมายพิจารณาทุกอย่างครบถ้วนหมดแล้ว ซึ่ง กมธ.วุฒิสภาก็เห็นชอบและไม่ได้แก้ไขใดๆ โดยในวันพุธที่ 25 ก.ย. นี้ จะมีการพิจารณาร่างสุดท้าย เพื่อสรุปรายงาน นำเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ แต่หากไม่ทันก็สามารถจะขยับการเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาได้ พร้อมย้ำว่าประเด็นทั้งหมดไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ

นายนิกร กล่าวต่อว่า แต่มีการขอแปรญัตติใน 1 ประเด็น ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ และได้มีการถกในชั้น กมธ. ในประเด็นนี้แล้วเช่นกัน คือการให้มีวรรค 2 ในหลักการการทำประชามติทั่วไป จะต้องใช้เสียงข้างมากถือเป็นข้อยุติ แต่สิ่งที่แปรญัตติคือสำหรับการจัดทำรัฐธรรมนูญนั้น ขอให้ใช้หลักการออกมาใช้สิทธิ์เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ และเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ ซึ่งหากเห็นชอบก็ต้องถูกตีกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎร แล้วไปสอบถามสภาฯ ว่าเห็นด้วยตามเดิมหรือไม่

หากไม่เห็นด้วยก็ต้องมีการโต้แย้งความเห็นของวุฒิสภา ดังนั้น ก็จำเป็นต้องตั้ง กมธ. ร่วมข้างละ 10 คน ขึ้นมาพิจารณาอีกระยะหนึ่ง จากนั้นความเห็นของ กมธ.ร่วมเห็นเป็นอย่างไร แต่ละสภาฯ ก็ต้องนำไปพิจารณากัน ถ้าสภาฯ ไหนไม่เห็นชอบ ก็ต้องถูกชะงักไว้ 180 วัน หรือ 6 เดือน แต่หาก สส. เห็นชอบด้วยเสียงเอกฉันท์มาแล้ว ก็จะสามารถดำเนินการไปกฏหมาย และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไปได้ แต่จะต้องหลัง 180 วันก่อน

ดังนั้น ต้องดูว่าในระยะนั้น จะเกิดปัญหาขึ้นหรือไม่ แต่ประเด็นที่รออยู่ในขณะนี้คือ ในเบื้องต้นจะจัดทำประชามติไว้ในวันที่ 2 ก.พ. 2568 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง สมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) ทั่วประเทศด้วย โดยจะพ่วงการจัดทำประชามติร่วมกันไปเลย ดังนั้น ตนตั้งข้อสังเกตว่าจะทันการจัดทำประชามติครั้งแรกหรือไม่ ก็ต้องรอดูต่อไป

ส่วนกระบวนการของ สว. จะมีใบสั่งในการยื่นร่างกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ก็ถือว่าอยู่ในสภาฯ ส่วนตัวไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับการแปรญัตติแล้วที่ประชุมจะเห็นด้วยกับคำแปรญัตตินั้นหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยที่จะเเก้ในหลักการ ก็ต้องกลับมาสู่สภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นต้องรอดูอีกครั้ง

ส่วนจะมีการกำหนดปฏิทินการจัดทำประชามติ นอกเหนือจากวันที่ 2 ก.พ. หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า หากไม่ทันในวันนี้ ก็ต้องจัดแบบเดี่ยวต่างหาก เนื่องจากวางไว้ในวันที่ 2 ก.พ. เพื่อให้ประชาชนสบายใจ แต่หากเลยวันที่ 2 ก.พ. จะรอวันที่เลือกตั้งทั่วไปอีก 3 ปีไม่ได้ จึงต้องกำหนดวันเอง และทำเฉพาะการออกเสียงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ ซึ่งในอนาคตก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร หากพลาดวันที่ 2 ก.พ. พร้อมย้ำว่า หากเริ่มตั้งแต่วันนี้ก็ยังทัน หากวุฒิสภาไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลักการ ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะส่งผลต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่แน่นอน อาจจะเสร็จไม่ทันในรัฐสภาชุดนี้ ซึ่งยังถือว่าเป็นข้อกังวลอยู่ เพราะเหลือเวลาไม่ถึง 3 ปีแล้ว

นายนิกร กล่าวอีกว่า หากทำทันวันที่ 2 ก.พ. 68 จะสามารถไปแก้ไขมาตรา 256 ได้ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ ให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนโดยเร็วที่สุด

Related Posts

Send this to a friend