POLITICS

‘ภูมิธรรม’ บูรณการ 3 กระทรวง รับมือTEMU หลังดูดเงินไทยกลับจีน

‘ภูมิธรรม’ บูรณการ 3 กระทรวง อุตฯ-สธ.-พณ. รับมือTEMU หลังดูดเงินไทยกลับจีน ชี้ โลกเปลี่ยนต้องปรับตัว

วันนี้ (6 ส.ค. 67) นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีแม่ค้าที่ตลาดสำเพ็ง ออกมาบ่นว่าร้านค้าไปหลายร้าน เนื่องจากมีพ่อค้าชาวจีนเข้ามาเทคโอเวอร์ค้าขายเงินสด และส่งเงินกลับไปที่ประเทศจีน กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการอย่างไร ว่า วันนี้เราต้องเข้าใจว่าระบบการค้าโลกกำลังเปลี่ยนแปลง และระบบอีคอมเมิร์ชออนไลน์กำลังเกิดขึ้นมาพอสมควร ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นบนฐานที่พยายามตัดคนกลาง เพื่อให้ประโยชน์สูงสุดเกิดขึ้นกับผู้บริโภค โดยระบบแบบนี้เกิดขึ้นในโลกและเข้าไปมีอิทธิพลในแต่ละประเทศ ฉะนั้นในทางจำเป็นของเราจึงต้องดูตรงนี้ ซึ่งถ้าพูดถึงแพลตฟอร์ม TEMU เขาก็เพิ่งเข้ามาได้สองสัปดาห์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันจึงเป็นการคาดการณ์ แต่ก็เข้าใจได้ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มาดูแลเรื่องนี้ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่

ขณะนี้เรากำลังเตรียมประชุม 3 กระทรวง คือกระทรวงอุตสาหกรรม สาธารณสุข และพาณิชย์ รวมถึงกรมการค้าต่างประเทศ ทั้งนี้ เรื่องที่จะเกิดขึ้นนั้นเกี่ยวพันกับสินค้าที่จะออกมาขาย ซึ่งถ้าเป็นประเภทอาหาร และยา ก็ต้องคุยกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่าจะดูแล เข้มงวดอย่างไร ถ้าในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมก็ต้องดูเรื่องมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร โดยทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้กฎขององค์การการค้าโลก หรือ WTO และเราก็มาดูรายละเอียดว่าเราจะควบคุมป้องกันตัวเองยังไง ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจกำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่

นายภูมิธรรม กล่าวต่ออีกว่า โลกเปลี่ยนแปลงเราต้องตามให้ทัน โดยจะต้องมีการปรับแก้ไขกฎหมายและกระบวนการทำงาน แต้เรื่องนี้ไม่ใช่การจะไปต่อต้าน แต่เป็นเรื่องที่จะต้องปฏิบัติกฎหมายเพื่อปกป้องผู้บริโภคชาวไทยให้ดีมากยิ่งขึ้น ต้องยอมรับว่ามันมีทั้งบวกและลบ อย่าไปมองว่าเขาเข้ามาแล้วเราต้องเอาอะไรไปแลก เพราะเรามีกระบวนการค้าขายกันอยู่กับจีนในการค้าขายทุเรียน กติกาการค้าโลกเปลี่ยนแปลงประเทศไทยจะต้องรู้เท่าทัน ติดตามสถานการณ์และหามาตรการป้องกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีแนวทางให้เขาเสียภาษีในไทยไเ้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นว่ารูปธรรมจริง ๆ มันคือแค่ไหนในการที่เขาเอาเงินสดออกไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังต้องดูแลอยู่แล้ว และตนเองได้สั่งการปลัดกระทรวงพาณิชย์ให้หารือกับกระทรวงการคลังในเรื่องมาตรการทางภาษีให้อยู่ภายใต้กฎระเบียบขององค์การการค้าโลก

Related Posts

Send this to a friend