POLITICS

‘วัน อยู่บำรุง‘ เผย ’พลเอกประวิตร’ อ้าแขนรับเข้าพลังประชารัฐ

ชี้ มีคนสั่งแตะเบรค หลังหลายพรรคติดต่อมาแล้วเงียบหาย ลั่น ’เพื่อไทย‘ ต้องขับ ร.ต.อ.เฉลิม ออกจากพรรค เหตุ ให้กำลังใจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เช่นกัน

วันนี้ (23 ก.ค. 67) ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ นายวัน อยู่บำรุง แถลงเปิดใจหลังสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ว่า วันนี้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากข่าวลาออกจากกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี มีเพื่อน ๆ หลายพรรค ติดต่อมาชวนเข้าพรรค แต่สักพักก็เงียบหายไป ไม่ทราบโดนใครแตะเบรคมา จนกระทั่งวันที่ตนเองไปลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ กกต. ก็มี นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โทรหา ถามว่ามาอยู่กับพลเอกประวิตรไหม ตนเองถามคำแรกว่า พลเอกประวิตร จะรับตนเองหรอ หลังจากนั้น 10 นาที นายสามารถ ก็โทรกลับมาบอกว่าพลเอกประวิตร เรียกให้เข้าไปพบ ซึ่งประโยคแรกที่เข้าไปพบ พลเอกประวิตรทักว่า “ยินดีต้อนรับ มาอยู่กับผม มาทำงานด้วยกัน” ซึ่งตนเองซาบซึ้ง และประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะตนเองเหมือนหนีร้อนมาพึ่งเย็น

“ลุงป้อม ท่านเป็นคนใจใหญ่ ท่านใจกว้าง ท่านใจถึงพึ่งได้ ของแท้จริง ๆ” นายวัน กล่าว

นายวัน กล่าวว่า ขอบคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรค ที่ได้อวยพรให้ตนเองโชคดีกับเส้นทางการเดินทางครั้งใหม่ โดยตนเองขอเรียนตามข้อเท็จจริงว่า พรรคเพื่อไทยต้องจัดการ เนื่องจากวันที่ 30 มิ.ย. ในวันเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ปทุมธานี ปิดหีบแล้ว เริ่มนับคะแนน ตามที่มีภาพตนเองไปปรากฏที่บ้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็นเรื่องจริง แต่ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง บิดาของตนเอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ถึงบ้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก่อนตนเองอีก ซึ่งไปหลังปิดหีบแล้ว จึงฝากไปถึงพรรคเพื่อไทย คณะกรรมการจริยธรรม จะดำเนินการอย่างไร การกระทำแบบนี้คณะกรรมการจริยธรรม ของพรรคเพื่อไทยจะต้องขับร้อยตำรวจเอกเฉลิม ออกจากพรรค เพราะทุกวันนี้ยังไม่เห็นมีใครเรียกร้อยตำรวจเอกเฉลิมไปต่อว่า ซึ่งเดี๋ยว สส. คนอื่นของพรรคเพื่อไทยก็จะทำได้ มิเช่นนั้น จะปกครองกันอย่างไร

นายวัน กล่าวต่อว่า ขอบคุณผู้ใหญ่พรรคเพื่อไทยที่ยังมีจิตใจเมตตา ร้อยตำรวจเอกเฉลิม นายอาชวิน อยู่บำรุง บุตรชายของตนเอง และนายนวรัตน์ อยู่บำรุง สก. ที่ขณะนี้ยังอยู่พรรคเพื่อไทย แต่อนาคตตนเองไม่ทราบ

นายวัน ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเช้าตนเองเห็นข่าวการให้สัมภาษณ์ของนายภูมิธรรม เวชยชัย ถึงการย้ายมาอยู่พรรคพลังประชารัฐของตนเอง ว่าให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณา ก็ไม่ทราบว่าใครสั่งมา ส่วนการให้สัมภาษณ์ของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ถามเรื่องตนเองย้ายพรรคนั้น เรามีความสนิทสนมกันมาอย่างยาวนาน เคารพนับถือท่านมาโดยตลอดส่วนที่ไม่ทราบก็อาจจะงานยุ่ง แต่ส่วนตัวยังเคารพรักกันเหมือนเดิม

เมื่อถามว่าตอนนี้จะมองหน้าพรรคเพื่อไทยติดหรือไม่ จะถึงขั้นไม่เผาผีเลยหรือไม่ นายวัน ระบุว่า การพูดแบบนี้แรงเกินไป ตอนเป็น สส. มีเพื่อนทุกพรรค เป็นเพื่อนกันหมด ซึ่งก็เป็นเพื่อนกันได้กับ สส. เพื่อไทย

นายวัน ย้ำว่า ร้อยตำรวจเอกเฉลิม ผิดข้อบังคับพรรคหรือไม่ ทำไมถึงไม่มีผู้ใหญ่ในพรรคเรียกร้อยตำรวจเอกเฉลิมเข้าไปถามข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร และตนเองไม่ได้ว่าร้ายพรรคเพื่อไทย แต่เอาความจริงมาพูด ตนเองไม่เผาบ้านเก่าหรอก เพราะอยู่มาตั้ง 17 ปี แต่บางเรื่องเป็นข้อเท็จจริงต้องเล่าสู่กันฟัง

นายวัน กล่าวว่า เดิมทีครอบครัวอยู่บำรุง สนิทกับครอบครัวชินวัตรมาก รองลงมาบ้านธูปกระจ่าง สนิทกันตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจ มีประวัติร่วมกันมาอย่างยาวนาน ไปมาหาสู่กันผูกพันกันเปรียบเสมือนเป็นญาติพี่น้องกัน และตอนนั้นปิดหีบไปแล้วไม่มีผลต่อคะแนน หากย้อนเวลากลับไปได้ตนเองก็จะเดินทางไปให้กำลังใจพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อยู่ดี

นายวัน กล่าวต่อว่า นายสามารถ ติดต่อให้ตนเองไปพบพลเอกประวิตรแล้วหนึ่งครั้ง และให้ติดต่อมาอีกครั้งเพื่อเชิญร้อยตำรวจเอกเฉลิมเข้าไปพบกับพลเอกประวิตรเพื่อรับประทานอาหารค่ำร่วมกันซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง พูดคุยกันออกรสออกชาติ และรู้จักกันมานาน

“ผมตอบแทนคุณพ่อเลยครับ ถ้าพรรคเพื่อไทยขับร้อยตำรวจเอกเฉลิม ร้อยตำรวจเอกเฉลิมเข้าพรรคพลังประชารัฐแน่นอน” นายวัน กล่าว

นายวัน กล่าวต่อว่า อนาคตทางการเมืองของตนเอง มันไม่ได้มีแค่ สส. ไม่ต้องเป็น สส. แต่ทำงานอยู่กับพรรคที่มีศักยภาพช่วยเหลือประชาชนได้ ทั้งนี้ พรรคอื่นโดนแตะเบรคเรื่องตน เอง ซึ่งตนเองไม่รู้ใครไปแตะเบรก แต่ พลเอกประวิตรไม่สน ท่านเมตตาเหมือนลูกเหมือนหลาน อยู่กับท่านแล้วอบอุ่น และไม่ทราบว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงไม่ขับ ร้อยตำรวจเอกเฉลิมออกจากพรรค และไม่ทราบว่ามีเหตุจำเป็นอะไรที่พรรคเพื่อไทยต้องรักษาไว้

ส่วนเคยติดต่อไปที่พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า มีเพื่อน ๆ ที่เป็นสมาชิกแทบทุกพรรคโทรศัพท์หา แต่ไม่มีผู้ใหญ่ของพรรคไหนโทรมา โดยมีการแตะเบรกก็แล้วกัน และไม่ได้ฝืนใจ เพราะพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคแรกที่อ้าแขนรับ พร้อมระบุว่า การเมืองเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่แน่ไม่นอน โอกาสอะไรใหม่ ๆ ที่ดีก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะชิงพื้นที่บางบอนกลับมาได้ คอยจับตาดูให้ดีเดือน ส.ค. และเดือน ก.ย. จะมีเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ รอติดตาม

เมื่อถามว่า การมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ มีความรู้สึกหรือไม่ว่า พล.อ.ประวิตร กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาจจะไม่ลงรอยกัน นายวัน กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบว่าท่านไม่ลงรอยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน และการที่มาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่เกี่ยวกับการแก้เกมอะไรทั้งสิ้น ตนเองอยากมีพรรคสังกัดไว ๆ จะได้ทำงานอะไรต่ออะไรได้

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชินวัตร กับอยู่บำรุง ถือว่าขาดกันแล้วหรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ส่วนตัวก็รักเคารพคุณอาทักษิณอยู่เสมอ ตนเองเรียกคุณอาตลอด เวลาพบเจอไม่ว่าตั้งแต่สมัยไหนจนกระทั่งล่าสุดก็เรียกคุณอา ยืนยันว่า ยังรักเคารพท่าน แต่ทางการเมืองก็ว่ากันไป

Related Posts

Send this to a friend