NZAero ลงนามข้อตกลงกับ TAI จัดหาชิ้นส่วน พร้อมยกระดับการบริการและซ่อมแซมให้กองทัพอากาศไทย
บริษัท NZAero ผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์เพียงรายเดียวของนิวซีแลนด์ เตรียมเพิ่มการส่งออกมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงนามในข้อตกลงทางธุรกิจ ร่วมกับ บริษัทอุตสาหกรรมการบินไทย จำกัด (TAI) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการบำรุงรักษาเครื่องบินให้กับกองทัพอากาศไทย โดยจะจัดหาชิ้นส่วน พร้อมขยายขีดความสามารถ MRO ของ TAI ในการให้บริการและซ่อมแซมเครื่องบินของรัฐบาลในประเทศไทย
สำหรับข้อตกลงดังกล่าว ลงนามในระหว่างภารกิจระยะเวลา 7 วันของคณะผู้แทนธุรกิจจากประเทศนิวซีแลนด์ นำโดย คริสโตเฟอร์ ลักซอน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ที่เดินทางเยือนทางการทูตสามประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีในภูมิภาค กระจายการค้า และส่งเสริมความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมที่แข็งแกร่งของนิวซีแลนด์ในภาคส่วนสำคัญ ๆ รวมถึงการผลิตและเทคโนโลยี
คริสโตเฟอร์ ลักซอน กล่าวว่า นิวซีแลนด์มุ่งหวังที่จะยกระดับความสัมพันธ์กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในรูปแบบที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ และยกระดับความมั่นคงและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน บันทึกความเข้าใจที่ลงนามโดย NZAero ในประเทศไทย ถือเป็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน
สตีเฟน เบอร์โรวส์ ซีอีโอของ NZAero กล่าวว่า ข้อตกลงระยะยาวฉบับใหม่ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าชิ้นส่วนและการส่งออกการบำรุงรักษาไปยังตลาดเป็นสามเท่า และช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น เมื่อถึงเวลาที่ฝูงบินที่มีอยู่นั้นยุติลง เครื่องบินยูทิลิตี้ใหม่จะกลายเป็นตัวเลือกที่ดีในการทดแทน
นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ NZAero เป็นผู้จัดหาชิ้นส่วนมากกว่า 800 ชิ้นให้กับฝูงบิน CT4 Airtrainer ของประเทศไทย เพื่อใช้ในการปฏิบัติการฝึกทหาร ขณะที่บริษัทซ่อมการบินอื่น ๆ ของนิวซีแลนด์จะได้รับประโยชน์จากสัญญาการบำรุงรักษาตามปกติ ไปจนถึงการยกเครื่องเครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์เดี่ยวอาจมีราคาสูงถึง 100,000 เหรียญสหรัฐในการยกเครื่อง และประเทศไทยมีเครื่องบินเหล่านี้ที่ใช้งานอยู่กว่า 24 ลำ
แม้นิวซีแลนด์จะมีประวัติยาวนานถึง 50 ปีในฐานะซัพพลายเออร์ด้านการบินให้กับประเทศไทย โดยกองทัพอากาศได้ซื้อเครื่องบินที่ผลิตในนิวซีแลนด์จำนวน 72 ลำและชิ้นส่วนมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ถือเป็นครั้งแรกที่มีข้อตกลงพิเศษด้านอะไหล่และการบริการที่ถูกทำให้เป็นทางการ ดังนั้น โอกาสในการขยายความสัมพันธ์ด้านอุปทานที่มีอยู่ระหว่างนิวซีแลนด์และไทยจะช่วยเพิ่มมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ให้กับรายได้จากการส่งออกของภาคส่วนดังกล่าว และจะเกิดการสร้างงานเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบตำแหน่ง รวมถึงการขยายตัวที่สำคัญของอุตสาหกรรมในท้องถิ่นต่อไป
“การลงทุนของประเทศไทยในอุตสาหกรรมการบินคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในระยะสั้น โดยไทยมุ่งเน้นที่จะปรับปรุงกองกำลังป้องกันให้ทันสมัย และจัดสรรเงินประมาณ 1.8 พันล้านดอลลาร์ให้กับกองทัพอากาศในแต่ละปี ซึ่งถือเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับนิวซีแลนด์ในการขยายส่วนแบ่งในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว” สตีเฟน กล่าว
สตีเฟน ยังเผยอีกว่า การใช้จ่ายด้านกลาโหมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นหลายพันล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และเทคโนโลยีการบินที่ออกแบบโดยนิวซีแลนด์ก็มีบทบาทเพิ่มขึ้นในการสนับสนุนด้านมนุษยธรรมที่นำโดยทหารของพันธมิตรในภูมิภาค เช่นเดียวกับการช่วยแก้ไขผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในสภาพภูมิอากาศ
ทั้งนี้ NZAero หวังว่าเครื่องบิน SuperPac XSTOL ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ออกแบบมาสำหรับพื้นที่สูงและสภาพอากาศร้อน จะเป็นทางออกที่ดีกว่าในการแก้ปัญหาแล้งของประเทศไทย และจะสามารถลดการพึ่งพากองบินปัจจุบันของประเทศไทยกว่า 50%
