‘สุริยะ‘ ห่วง การบินไทย ซื้อเครื่องบินเพิ่ม กังวล ไม่คุ้มค่า
‘สุริยะ‘ ห่วง การบินไทย ซื้อเครื่องบินเพิ่ม กังวล ไม่คุ้มค่า ยัน กระทรวงคมนาคมไม่เกี่ยว เพราะไม่มีอำนาจ
วันนี้ (13 ก.พ. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการซื้อเครื่องบินเพิ่มของการบินไทย ว่า การบินไทยตอนนี้อยู่ในแผนฟื้นฟู ดังนั้น ผู้บริหารแผนฟื้นฟูเขาเป็นผู้ดำเนินการ ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม ทางเราก็พยายามถามว่าการซื้อคุ้มค่าหรือไม่ แต่เราไม่มีอำนาจ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูแล้ว ต้องทำตามแผนที่คณะกรรมการมีข้อตกลงกับศาลฟื้นฟูให้ดำเนินการ ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมเป็นห่วงมาก
ส่วนภาระนั้นเกี่ยวข้องกับงบประมาณของรัฐบาลหรือไม่ นายสุริยะ ระบุว่า เรื่องนี้เกี่ยวตอนที่การบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่หลังจากผลประกอบการไม่ดีในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ก็ขอเงินไปซื้อเครื่องบิน ซึ่งรัฐบาลไม่อนุญาตในการเพิ่มทุน ก็เลยล้มละลาย และเข้าสู่กระบวนการที่ศาลล้มละลาย ดังนั้นกระบวนการอยู่ที่ทางศาล รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้เราจะมีการแสดงความเห็นไป แต่หน้าที่ทั้งหมดอยู่ที่เขา ยืนยันว่าเราไม่ได้สบายใจกับเรื่องนี้ โดยหลายสายการบินแจ้งว่าทางการบินไทย มีปัญหาทั้งเรื่องบุคลากรไม่เพียงพอ การขนส่งกระเป๋าล่าช้า ซึ่งทางการบินไทยแจ้งมาว่ามีเพียงพอ โดยความคิดเห็นทั้งสองนี้ขัดแย้งกัน จึงได้เรียกมาประชุมเพื่อหาข้อสรุป ตนเองจึงสั่งให้การบินไทยไปปรับปรุงซึ่งทางกระทรวงคมนาคมต้องไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อ เพราะไม่ตรงกับที่สายการบินใหญ่ ๆ บอกมา และในสัญญาระบุไว้ว่าถ้าไม่สามารถบริการลูกค้าตามที่สัญญาไว้ได้ ก็มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญา และตอนนี้ยังเหลือสัญญาอีก 10 กว่าปี
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีลงไปดูพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วยตนเองนั้น นายสุริยะ ระบุว่า ตนเองยืนยันว่าตนเองไม่ได้อนุมัติให้ไปซื้อเครื่องบิน เป็นความเห็นที่ตรงกันข้าม หากตนเองมีอำนาจก็จะสั่งให้หยุดไว้ก่อน และต้องคุ้มทุนหรือไม่
สำหรับเครื่องบินที่ถูกจอดทิ้งไว้มีจำนวนมากและยังมีแผนในการจัดซื้อเพิ่มเติมนั้น นายสุริยะ ระบุว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับการบินไทยเรื่องเครื่องบินเก่าที่จอดอยู่ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องบิน A380 ตอนนั้นค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นเยอะ ดังนั้นการใช้เครื่องบิน A380 ซึ่งลำใหญ่ ทำให้การบินไม่คุ้มค่า จึงต้องหยุดไป แต่ส่วนหนึ่งที่การบินไทยควรจะทำคือรีบขาย เหมือนสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ และแลกเปลี่ยนเครื่องขนาดเล็กลงซึ่งเขาไม่ได้ทำ และถ้าหากขายตอนนี้ก็เป็นชิ้นส่วนเศษเหล็ก












